รับผลิตแฟลชไดร์ฟคลาสสิคทุกชนิด – แฟลชไดร์ฟคลาสสิคราคาถูก, แฟลชไดร์ฟคลาสสิคแบบมีฝา, แฟลชไดร์ฟคลาสสิคทำโลโก้, แฟลชไดร์ฟคลาสสิคสกรีนโลโก้, แฟลชไดร์ฟคลาสสิค, แฟลชไดร์ฟคลาสสิค ราคาถูก, แฟลชไดร์ฟ ราคาส่ง ผลิตแฟลชไดร์ฟคลาสสิค โดยโรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟคลาสสิค
รวมรุ่นแฟลชไดร์ฟคลาสสิค | CLASSIC USB
สินค้าที่คุณอาจสนใจ
Submit your review | |
ทำไมต้องแฟลชไดร์ฟคลาสสิค
หากพูดถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูล หรือบันทึกข้อมูลไฟล์สำคัญต่าง ๆ ได้นั้น คงหนีไม่พ้นแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) อย่างแน่นอน และเคยสงสัยกันไหมว่าแฟลชไดร์ฟคลาสสิคนั้นมีที่มีที่ไปเป็นอย่างไร
แฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) นั้นเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมในการเก็บข้อมูลสำหรับคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) มีความจุตั้งแต่ 1GB – 1TB แฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) ที่ทุกคนรู้จักกันดีนั้นมีชื่อเรียกหลายแบบมากมาย ทั้งที่เราคุ้นหูและไม่คู้นหู ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตจะทำการตั้งชื่อไม่ว่าจะเป็น จัมป์ไดรฟ์ (jump drive) ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทเล็กซาร์, ดาต้าคีย์ (data key), ดาต้าสติ๊ก (data stick), ทราเวลไดรฟ์ (travel drive) ภายใต้เครื่องหมายการค้าของ เมโมเร็กซ์, ทัมบ์ไดรฟ์ (ThumbDrive) ภายใต้เครื่องหมายการค้าของ เทร็ค ทัมบ์คีย์ (thumb key) เพนไดรฟ์ (pen drive), ฟิงเกอร์ไดรฟ์ (finger drive), แฟลชไดรฟ์ (flash drive), แฟลชดิสก์ (flash disk), เมโมรีไดรฟ์ (memory drive), ยูเอสบีไดรฟ์ (usb drive), ยูเอสบีคีย์ (usb key), คีย์ไดรฟ์ (key drive), แฮนดีไดรฟ์ (handy drive) เป็นต้น
แฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) มีต้นกำเนิดในช่วงสมัยปี 1980 โดยการนำหน่วยความจำแฟลช หรือ flash memory แบบ NAND ในยุคแรกเริ่มแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) มีรูปร่างหน้าตาคล้ายแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง โดยในการเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) กับอุปกรณ์จำเป็นจะต้องใช้สายเชื่อมต่อที่เรียกว่า “sata” หรือเชื่อมต่อภายในคอมพิวเตอร์โดยตรง หลังจากนั้นในปี 1990 ทางบริษัทผู้พัฒนาแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) ได้เพิ่มระบบ USB Port จนได้เกิดเป็นแฟลชไดร์ฟคลาสสิคแบบ USB ที่ถูกพูดถึงและเป็นชื่อยอดนิยมมใช้ในการเรียกแทนอุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิดนี้นั่นเอง
ในช่วงเริ่มแรกแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) ที่ถูกผลิตขึ้นมานั้นมีความจุแค่เพียง 8 เมกะไบต์เท่านั้น ทำได้เพียงเซฟไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กจากคอมพิวเตอร์เท่านั้น ต่อมาบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และให้บริการด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศชื่อดังได้ทำการศึกษาและพัฒนาแฟลชไดร์ฟคลาสสิคให้มีขนาดความจุเพิ่มมากขึ้นจาก 8 เมกะไบต์เป็น 16 เมกะไบต์, 64 เมกะไบต์ และ 128 เมกะไบต์ ตามลำดับ และในปัจจุบันได้มีการพัฒนาความจุของแฟลชไดร์ฟคลาสสิคให้มีความจุมากขึ้นจากเมกะไบต์ เป็น กิกกะไบต์ (GB), จนถึง 1 เทราไบต์ (TB) ทำให้แฟลชไดร์ฟคลาสสิคสามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีการพัฒนาพอร์ตเชื่อมต่อจาก USB 1.0 เป็น USB 2.0 และ USB 3.0 และดีไซน์การออกแบบที่น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ทั้งดีไซน์ที่ทันสมัย ดีไซน์ที่แปลกใหม่อย่าง แฟลชไดร์ฟกระบอกน้ำ แฟลชไดร์ฟปากกา แฟลชไดร์ฟร่ม แฟลชไดร์ฟถุงผ้า แฟลชไดร์ฟพวงกุญแจ แฟลชไดร์ฟริสท์แบนด์ เป็นต้น
ในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) ได้ถูกพัฒนาทั้งทางด้านรูปร่างและความจุให้ก้าวไกลและมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นจนยทำให้แฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) นั้นกลายเป็นเป็นอุปกรณ์คอมพิวเอตร์ที่จำเป็นกับผู้ใช้งานเป็นอย่างมากและยังได้รับความนิยมอยู่เสมออีกด้วย ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนแต่ความคลาสสิคของการใช้แฟลชไดร์ฟชนิดนี้ก็ยังคงเดิม อีกทั้งทางผู้ผลิตยังได้มีการพัฒนาแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) ให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถพกพาไปได้ทุกที่ สามารถบันทึกข้อมูลได้มากขึ้น ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น ยังรองรับการใช้งานกับทุกอุปกรณ์ได้ดีอีกด้วย แถมมีความสวยงามทันสมัยน่าใช้ และยังมีความทนทานสูงขึ้นอีกด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่ามีประโยชน์ครบครันเสียจริงเลยล่ะ และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในประวัติความเป็นมาอย่างคร่าว ๆ สำหรับต้นกำเนินและความเป็นมาของแฟลชไดร์ฟคลาสสิค (Classic USB) ชนิดนี้