สำหรับใครหลาย ๆ คนนั้น ร่มเป็นเพียงอุปกรณ์ที่ใช้ในการกันฝนในช่วงฤดูกาลหนึ่งเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว ร่มที่เราใช้งานอยู่นั้น ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่การกันลมกันฝนเพียงอย่างเดียว เพราะเราสามารถเลือกใช้งานและใช้ประโยชน์จากร่มได้อย่างหลากหลายมาก และวันนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ต่าง ๆ ของร่มที่มากกว่าแค่การกันฝนให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ

ร่มนั้น นอกจากจะช่วยกันแดดกันฝนได้แล้วนั้น ร่มยังสามารถใช้เพื่อตกแต่งสถานที่ได้อีกด้วย โดยใช้ร่มหลากหลายสีสันตกตแต่งเป็นลักษณะคล้ายกับเพดาน เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและสวยงาม ปัจจุบันก็มีคนกลุ่มมากที่นิยมนำร่มไปตกแต่งตามสถานที่ต่าง ๆ ตามทางเดิน ทั้งในวัดหรือตามสถานที่จัดงานต่าง ๆ

นอกจากนั้นแล้ว ร่มยังสามารถใช้ในการโปรโมทธุรกิจให้กับธุรกิจของเราได้อีกด้วย การนำเอาร่มมาใช้ในการโปรโมทธุรกิจนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก สังเกตได้จากร้านขายอาหารข้างทางที่มีการนำเอาร่มที่มีแบรนด์ของธุรกิจต่าง ๆ มาใช้ หรือตามริมทะเลหรือชายหาด ที่มีการกางร่มเป็นโลโก้ของโรงแรมต่าง ๆ เพื่อโปรโมทโรงแรมของตัวเอง โดยร่มจำพวกนี้ส่วนมากจะเป็นร่มที่ใช้มอบเป็นของสมนาคุณในโอกาสต่าง ๆ หรือเป็นบริการจากทางโรงแรมนั้น ๆ ที่บริการนักท่องเที่ยว หรืออาจจะเป็นร่มให้เช่าก็ได้

ร่มยังสามารถช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนได้อีกด้วย เพราะในประเทศไทยเรานั้นก็ยังมีอำเภอหลาย ๆ อำเภอที่นิยมนำร่มมาวาดลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน เช่น การผลิตและจำหน่าย ร่มบ่อสร้าง ทางภาคเหนือ เพราะนอกจากจะสร้างรายได้แล้วยังเป็นการส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมของไทยได้อีกด้วย ซึ่งคนในชุมชนส่วนใหญ่นั้นไม่ใช่เพียงแค่วาดลวดลายบนร่มเท่านั้น แต่ยังมี ถุงผ้า รวมถึงสินค้ายุคCOVID – 19 หรือ พวงกุญแจอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าอีกด้วย

ข้อถัดมาเป็นการใช้งานที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นผ่าน ๆ ในการถ่ายทำภาพยนตร์มาบ้างแล้ว คือการใช้ร่มเพื่อช่วยในการถ่ายภาพ เพราะร่มจะช่วยให้เรื่องของการปรับแสงให้กับภาพถ่าย ปรับเงา ทำให้ภาพถ่ายออกมาดูสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่จะนิยมในการใช้ร่มสีขาวเพื่อปรับสมดุลภาพถ่าย ให้ภาพถ่ายออกมานุ่มนวลมากที่สุด

นอกจากการใช้งานทั่วไปแล้ว ร่มยังได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการมอบเป็นของขวัญหรือของชำร่วยในงานต่าง ๆ อีกด้วย เพราะนอกจากจะสามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว ยังสามารถสกรีนโลโก้หรือข้อความต่าง ๆ ลงบนร่มได้ เพื่อสร้างความทรงจำที่ดีระหว่างผู้ให้และผู้รับ เพื่อการระลึกทุกครั้งที่ใช้งาน แถมร่มนั้นยังเป็นของขวัญที่เราสามารถมอบให้กับคนได้ทุกกลุ่มและทุกเพศทุกวัยอีกด้วย

ในประเทศไทยนั้นอาจจะมีความคุ้นเคยกับการนำร่มมาไว้สำหรับการป้องกันตัวเองเวลาฝนตก หรือแดดออก เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนอย่างมาก ร่มจึงมีประโยชน์อย่างมากในการป้องกันแสงแดดหรือรังสี UV ที่ทำร้ายผิวของเรา ร่มนั้นสามารถป้องกันรังสี UV ที่ทำร้ายผิวของเราได้มากถึง 77% เลยทีเดียว และปัจจุบันก็มีการผลิตและคิดค้นร่มเพื่อการป้องกันรังสี UV โดยเฉพาะ ร่มที่ป้องกันรังสี UV นั้นสามารถป้องกันรังสี UV ได้มากถึง 90% เลยทีเดียว แต่ขณะเดียวกันในต่างประเทศนั้นก็มีความนิยมอย่างมากที่ใช้ร่มเพื่อป้องกันหิมะตก ซึ่งประเทศไทยเรานั้นอาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้งานด้านนั้น แต่ในต่างประเทศ เมื่อถึงฤดูหนาวที่มีหิมะตกหนักหรือพายุเข้า ร่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างมากเลยทีเดียวที่จะช่วยพาเราไปในสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องการได้อย่างปลอดภัย

ร่มเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยกันแดด กันฝน หรือใช้ป้องกันสิ่งต่าง ๆ ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า หากพูดถึงร่ม หลาย ๆ คนก็คงนึกถึงสิ่งของ แต่ร่มที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ หมายถึงบุคคล บุคคลที่คอยตักเตือน ปกป้อง ดูแล เป็นกำลังใจให้เรา ซึ่งก็คือ พ่อ – แม่ หรือบุคคลในครอบครัวนั่นเอง

พ่อ – แม่ เปรียบเสมือนกับร่มในบ้าน เป็นผู้ที่คอยปกป้องเราจากสิ่งต่าง ๆ เป็นคนที่คอยให้ร่มเงากับเราในยามที่เราต้องการ เป็นคนคอยประคับประคองเราจนเราประสบความสำเร็จ คอยสั่งสอน ส่งเสริมการเรียน ซื้ออุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ ทั้งดินสอปากกามาให้ ที่เราเปรียบพ่อ – แม่เหมือนกับร่ม นั่นก็เพราะ ในเวลาที่เราเดือดร้อน มีปัญหา พ่อ – แม่ มักเป็นบุคคลแรก ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราเสมอ โดยไม่มีข้อแม้ เหมือนกับร่มที่คอยบังแดดให้เรา ในเวลาที่เราเสียใจพ่อกับแม่ก็จะเป็นคนคอยปลอบเรา ให้กำลังใจเราในวันที่เราล้ม เปรียบเสมือนร่มที่คอยกันฝนให้ และเมื่อมีคนมาทำร้ายเรา พ่อกับแม่ก็จะเป็นคนที่คอยปกป้องเราจากอันตรายต่าง ๆ เปรียบเสมือนกับร่ม ที่สามารถกลายมาเป็นอาวุธที่ใช้ป้องกันตัวได้ นั่นเอง

บางคนเมื่อโตขึ้นและประสบความสำเร็จในชีวิต กลับเลือกที่จะทอดทิ้งร่มเหล่านั้น เพียงเพราะร่มนั้นไม่สามารถปกป้องเขาได้อีกต่อไป หรือเพียงเพราะเขาโตพอที่จะป้องกันตัวเองจากสิ่งต่าง ๆ ได้แล้ว แต่รู้ไหมว่า พ่อ – แม่ ไม่เคยคาดหวังหรือต้องการการดูแลอะไรจากลูกเลย เพียงแค่ต้องการเห็นลูกประสบความสำเร็จในชีวิต สามารถใช้ชีวสิตได้อย่างมีความสุขเท่านั้นเอง

หลาย ๆ คนที่เกิดมาโดยที่ไม่มีร่มคอยกันแดดกันฝนให้ เขาเหล่านั้น ต้องต่อสู้และดิ้นรนทำทุกอย่างด้วยตัวของเขาเอง ไม่มีแม้กระทั่งเสื้อผ้า แก้วน้ำกระบอกน้ำไว้ใช้ ไม่มีอุปกรณ์การเรียน ไม่มีชุดนักเรียนหรือกระเป๋านักเรียนสวย ๆ บางคนพกแค่ถุงผ้าเก่า ๆ ใบเดียวก็มี บางคนโชคดีที่ยังมีญาติคอยช่วยเหลือ ตักเตือน อบรมสั่งสอนแทนพ่อ – แม่ แต่บางคนที่ต้องเกิดมาแล้วกำพร้าตั้งแต่เด็กก็มีอยู่มาก เราจึงควรคิดให้ดีว่า เราโชคดีแค่ไหนแล้วที่เรามีพ่อ – แม่ อยู่กับเราในวันนี้ ถ้าเทียบกับเด็กหลาย ๆ คนที่เขาต้องการแต่เขาไม่มี

ถึงแม้ว่า พ่อ – แม่ จะเป็นบุคคลที่มีพระคุณสำหรับเรา แต่ในปัจจุบันก็ยังมี พ่อ – แม่อี กหลายคนที่มีวิธีการเลี้ยงลูกที่ผิด ปกป้องลูกจากสิ่งต่าง ๆ มากเกินไปจนลูกไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นถูกหรือผิดเพราะมี พ่อ – แม่ คอยปกป้องมาตลอด หรือพ่อ – แม่ บางกลุ่มที่มีลูกในเวลาที่ไม่พร้อม ทำให้ลูกนั้นขาดความรักความอบอุ่น ขาดการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความใส่ใจจากคนรอบตัว และเริ่มมีอาการก้าวร้าวรุนแรงเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งหากต้องการที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ พ่อ – แม่ ในรูปแบบต่าง ๆ ควรดูและพิจารณาว่าสิ่งที่เราได้ทำนั้น ส่งผลดีหรือผลเสียต่อลูกของเรามากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ลูกของเราเติบโตขึ้นเป็นคนที่ดีของสังคมต่อไป

ร่มที่ดีสำหรับเรา อาจจะไม่ดีสำหรับคนอื่นและร่มที่ดีสำหรับคนอื่นก็อาจจะไม่ได้ดีสำหรับเราเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราควรพึงพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ถึงแม้ว่าร่มของเรานั้นอาจจะไม่ได้ดีเหมือนกับร่มของคนอื่น แต่ร่มนั้นก็ยังสามารถปกป้องเราจากแดดจากฝนได้เหมือนกับร่มของคนอื่น ๆ เช่นเดียวกัน หากวันนี้เรายังมีร่มที่ดีอยู่กับเรา อย่าลืมดูแลและทดแทนบุญคุณกันด้วยนะคะ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าในวันหนึ่งถ้าเราไม่มีร่มที่คอยปกป้องเราแล้ว เราจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไร หากคิดได้ในวันที่สายเกินไปแล้ว เราคงไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกเลย