ถ้าพูดถึงการแจกของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ก็แน่นอนว่ามีหลากหลายวิธีให้เราได้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการแจกให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่พบเห็นแบบฟรีๆ เช่น แจกปากกาที่สรกีนโลโก้ ชื่อบริษัท การใช้กิจกรรมตอบคำถาม เพื่อรับของรางวัล เช่น ถุงผ้า กระบอกน้ำ การร่วมสนุกเล่นเกมที่ทางบริษัทจัดขึ้น หรือกระทั่งการซื้อสินค้ารายการใดๆ ที่ทางบริษัทกำหนดเพื่อแลกรับของรางวัล เช่น ร่ม กิ๊ฟเซ็ต เป็นต้น อย่างไรก็ตามหากเลือกวิธีที่ถือว่ามีประสิทธิภาพในแง่ของการสร้างความมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์ บริษัท และลูกค้าได้มากที่สุด นักการตลาดส่วนมากย่อมนึกถึงระบบสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของพรีเมี่ยม เพราะระบบนี้นับว่าค่อนข้างมีความแตกต่างไปจากวิธีอื่นๆ ที่นิยมใช้ในกิจกรรมการตลาดต่างๆดังที่ยกตัวอย่างมาก ซึ่งในบทความนี้เองก็ได้รวบรวมเอาเหตุผลที่ทำให้วิธีสะสมคะแนนแลกรับของพรีเมี่ยมนั้นแตกต่างจากกิจกรรมแจกของพรีเมี่ยมแบบอื่นๆ และมักมีแนวโน้มที่จะได้ประสิทธิผลทางการตลาดที่ดีกว่ามาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน การสะสมคะแนนมักใช้เวลายาวนานกว่าวิธีอื่นๆ เหตุผลแรกที่ทำให้ระบบสะสมคะแนนแลกของพรีเมี่ยมนั้นได้ประสิทธิผลทางการตลาดที่ดีกว่าก็คือ ระยะเวลาการมีส่วนร่วมระหว่างบริษัท และลูกค้าที่ยาวนานกว่าวิธี หรือกิจกรรมรูปแบบอื่นๆ นั่นเอง เพราะการสะสมคะแนนจากการซื้อสินค้า หรือบริการใดๆ ของบริษัทให้ถึงจำนวนที่กำหนดนั้นจำเป็นต้องใช้เวลา ซึ่งหลายกรณีอาจกินเวลานานหลายสัปดาห์ หรือเป็นเดือน ช่วงระยะเวลานี้เองจะทำให้กลุ่มลูกค้ารู้สึกได้ดีถึงการมีส่วนร่วมกับบริษัท หรือแบรนด์จนเกิดเป็นการจดจำ หรือการรู้สึกภักดีในแบรนด์ไปโดยอัตโนมัติ รวมถึงอาจกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้า และบริการของแบรนด์มากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าระยะเวลาในการมีส่วนร่วมจะถือเป็นข้อดีด้วยเหตุผลดังกล่าว แต่ในการกำหนดเกณฑ์การให้คะแนนจากการซื้อสินค้าและบริการใดๆ ก็ควรระมัดระวังให้เป็นไปด้วยความสมเหตุสมผล หรือทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงความคุ้มค่ากับจำนวนคะแนนที่ได้รับด้วย เพราะหากเกณฑ์การให้คะแนนยาก หรือน้อยเกินไปก็อาจทำให้ลูกค้าหลายคนถอดใจที่จะร่วมสนุกสะสมคะแนนได้ การสะสมคะแนนเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆในตัวเอง สำหรับเหตุผลข้อนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นจิตวิทยาการตลาดอย่างนึงก็ว่าได้ เพราะธรรมชาติของผู้บริโภคนั้นการได้สินค้าชิ้นใดมาด้วยความยากลำบาก หรือต้องอาศัยความตั้งใจในการสะสมคะแนน และรอเวลาในการแลกรับของรางวัลนั้นๆ ย่อมรู้สึกถึงคุณค่าของของรางวัล หรือของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ ได้มากกว่าการได้รับมาด้วยวิธีการง่ายๆ หรือกิจกรรมแลกรับง่ายๆ อย่างการตอบคำถามสั้นๆ แต่ทั้งนั้นทั้งนี้แม้ว่าระบบสะสมคะแนนจะมีส่วนช่วยเพิ่มคุณค่าของพรีเมี่ยมใดๆ ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังในการเลือกออกแบบ และผลิตของพรีเมี่ยมให้มีคุณภาพที่น่าพอใจ ให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงความคุ้มค่ากับความตั้งใจในการสะสมคะแนนเพื่อแลกรับมา ซึ่งหากของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ มีคุณภาพที่น่าผิดหวังก็จะกลายเป็นว่าผลลัพธ์ทางการตลาดที่ได้นั้นอาจตรงข้ามกับที่คาดหวังไว้เลย เรียกว่าลูกค้าอาจมีความรู้สึกในทางลบต่อแบรนด์ บริษัท หรือองค์กรจนส่งผลต่อการตัดสินใจบริโภคสินค้า หรือบริการของบริษัทใดอนาคต สามารถกำหนดจำนวนคะแนน และของรางวัลให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้ อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ระบบสะสมคะแนนแลกรับของพรีเมี่ยมได้ประสิทธิผลทางการตลาดที่ดีกว่าวิธีอื่นๆ ก็คือสามารถเลือกสินค้าที่จะนำมาเป็นของรางวัลได้หลากหลาย และกำหนดจำนวนคะแนนให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้ ต่างจากกิจกรรมรูปแบบอื่น ซึ่งอาจแยกกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้ยาก หรือไม่สามารถกำหนดความเหมาะสมของของรางวัลแต่ละชิ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สังเกตได้จากกิจกรรมการตลาดหลายๆ รูปแบบที่ของรางวัลบางรายการที่มีมูลค่าสูง หรือได้รับความนิยมสูงมักถูกเลือกรับไปจากกลุ่มลูกค้าก่อนจนของรางวัลหมดอย่างรวดเร็ว และทำให้ลูกค้ารายอื่นๆ ที่มาร่วมกิจกรรมในภายหลังต้องเลือกรับของรางวัลชิ้นอื่นไปแทน