ไอเดียการจัดทำของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ในปัจจุบันถือว่ามีค่อนข้างหลากหลาย เลือกใช้ได้อย่างยืดหยุ่นตามความเหมาะสมกับลักษณะของกิจกรรม หรือแคมเปญนั้นๆ จากเดิมที่ในโลกของการตลาดช่วงหลายปีก่อนเรามักจะคุ้นเคยกับข้อควรคำนึงพื้นฐานต่างๆ ในการเลือกหาสินค้าสักชิ้นสำหรับใช้เป็นของพรีเมี่ยม เช่น ควรต้องเป็นสินค้าที่มีประโยชน์ใช้สอยธรรมดาๆ เข้าใจง่าย เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น สินค้าอย่างเสื้อยืด ร่ม เป็นต้น ทว่าปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีสินค้าอย่าง แก็ดเจ็ตไอที สินค้าสุขภาพที่ผลิตจากนวัตกรรมใหม่ๆ สินค้าในรูปแบบกิฟต์เซ็ท บ็อกซ์เซ็ท ที่ถูกใช้เป็นของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ขององค์กร แบรนด์ หรือบริษัทต่างๆ อย่างไรก็ตามสินค้าพรีเมี่ยมที่ดูจะเป็นไอเดียพื้นฐานในโลกการตลาดยุคปัจจุบัน แต่กลับไม่ได้ถูกใช้งานจริงสำหรับเป็นของรางวัล แจก แถมในแคมเปญการตลาดใดๆ มากนักเมื่อเทียบกับสินค้าชิ้นอื่นๆ ก็คือ สินค้าในรูปแบบกิฟต์เซ็ท หรือบ็อกซ์เซ็ทนั่นเอง ในบทความนี้จึงจะมาอธิบายกันว่าเพราะอะไรของพรีเมี่ยมประเภทนี้จึงมักเป็นไอเดียที่ถูกเลือกใช้งานจริงน้อยกว่าไอเดียอื่นๆ และกิจกรรม หรือแคมเปญการตลาดแบบใดที่เหมาะสำหรับใช้งานร่วมกับสินค้าประเภทกิฟต์เซ็ทนี้ ต้นทุนการสั่งผลิตที่สูงกว่าของพรีเมี่ยมแบบชิ้นเดี่ยว แม้ว่าปัจจุบันโรงงานผู้รับผลิตสินค้าพรีเมี่ยมหลายแห่งจะมีการรับออเดอร์ผลิตของพรีเมี่ยมแบบจัดเซ็ทเป็น Gift set หรือบ็อกซ์เซ็ท ให้บริษัท แบรนด์ ห้างร้านต่างๆ สามารถสั่งผลิตได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับสินค้าพรีเมี่ยมแบบชิ้นเดี่ยว แต่ในแง่ของต้นทุนการสั่งผลิตนั้นแน่นอนว่าของพรีเมี่ยมแบบจัดเซ็ทย่อมสูงกว่าสินค้าชิ้นเดี่ยวทั่วไป เพราะเป็นการผลิตสินค้าตั้งแต่สองชิ้นขึ้นไปเพื่อนำมารวมเซ็ทอีกที จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัท แบรนด์ หรือองค์กรใดๆไม่นิยมใช้ของพรีเมี่ยมแบบกิฟต์เซ็ทในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ มากเท่ากับของพรีเมี่ยมแบบชิ้นเดี่ยว เหมาะสำหรับใช้ในแคมเปญการตลาดช่วงเวลาเทศกาลต่างๆ แม้ว่าด้วยเหตุผลเรื่องของต้นทุนการสั่งผลิตจะทำให้ของพรีเมี่ยมแบบกิฟต์เซ็ท บ็อกซ์เซ็ทไม่เป็นที่นิยมนักดังกล่าว แต่ในแง่ของประสิทธิภาพทางการตลาดแล้ว ก็ต้องบอกว่าของพรีเมี่ยมแบบกิฟต์เซ็ท หรือบ็อกซ์เซ็ทนั้นยังมีความเป็นจำเป็นสำหรับแคมเปญการตลาดบางแคมเปญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแคมเปญการตลาดที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเทศกาลต่างๆ เช่น ช่วงคริสต์มาส ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เป็นต้น เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้า และผู้บริโภคทุกคนรู้สึกดีกับการได้รับของขวัญ ซึ่งของรางวัลจากการร่วมกิจกรรมกับทางแบรนด์ หรือบริษัทในรูปแบบกิฟต์เซ็ทก็ย่อมสื่อถึงความรู้สึกของการได้รับของขวัญในช่วงเวลาเทศกาลนั้นๆ ได้ดีกว่าของพรีเมี่ยมแบบชิ้นเดี่ยว ลูกค้าจึงมีแนวโน้มที่จะรู้สึกประทับใจ และจดจำแบรนด์เราได้ดีกว่า ใช้กับแคมเปญที่ต้องการให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายร่วมกิจกรรมในระยะยาว อย่างที่ทราบกันดีกว่าของพรีเมี่ยมแบบจัดเซ็ทนั้นมีต้นทุนการสั่งผลิตที่สูงกว่าสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นเดี่ยวทั่วไป แต่ในแง่ของคุณค่า หรือความรู้สึกพึงพอใจของลูกค้าเมื่อได้รับไปก็ย่อมมีแนวโน้มที่จะมากกว่าด้วยเช่นกัน ดังนั้นลักษณะของแคมเปญการตลาดอีกแบบนึงที่เหมาะจะใช้ร่วมกับสินค้าพรีเมี่ยมแบบจัดเซ็ทนี้ก็คือ แคมเปญที่ต้องการให้กลุ่มลูกค้าร่วมกิจกรรมกับแบรนด์ หรือองค์กรเราในระยะยาว ตัวอย่างเช่น กิจกรรมสะสมคะแนนแลกรับกิฟต์เซ็ทที่มีระยะเวลาร่วมกิจกรรมตั้งแต่ 1-3 เดือน เป็นต้น การใช้งานร่วมกับแคมเปญลักษณะนี้จะช่วยให้ได้ประโยชน์ หรือผลลัพธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คุ้มค่ากับต้นทุนการสั่งผลิต หรือจัดทำพรีเมี่ยมแบบกิฟต์เซ็ทมากขึ้น แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ระยะเวลากิจกรรมโดยเฉลี่ยก็ไม่ควรเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไป เพราะนับเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักเลิกจดจ่อกับเป้าหมายในการร่วมกิจกรรมทางการตลาดใดๆ นั่นเอง