ในการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นนั้น หลายคนย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นการจัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการตลาด หรือใช้เป็นตัวช่วยในการโปรโมทบริษัท องค์กรให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยอาศัยพื้นที่บนของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ ในการสกรีน พิมพ์ข้อความ ลวดลายใดๆ ที่สื่อถึงองค์กรของเราลงไป เช่น ถุงผ้าพรีเมี่ยม ที่มีโลโก้บริษัทแห่งหนึ่ง ใช้เพื่อแจกลูกค้า ทว่าในขั้นตอนของการจัดทำ และผลิตสินค้าพรีเมี่ยมจริงๆ นั้นสำหรับบริษัท องค์กรที่ยังไม่เคยผ่านประสบการณ์จัดทำสินค้าพรีเมี่ยมใดๆมาก่อนอาจจะยังไม่เข้าใจในขั้นตอนต่างๆ ทั้งในส่วนของการออกแบบ และการติดต่อโรงงานเพื่อสั่งผลิต ซึ่งถือว่ามีความแตกต่างไปจากการผลิตสินค้าใดๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท หรืออยู่ในไลน์การผลิตของบริษัทเราเอง ในบทความนี้จึงได้นำเอาขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การคิดไอเดียสินค้า ออกแบบ และสั่งผลิตมาอธิบายให้มือใหม่หัดทำของพรีเมี่ยมให้ได้ทราบกัน
เลือกว่าจะออกแบบ หรือใช้บริการรับออกแบบจากผู้ผลิตสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ หนึ่งในขั้นตอนที่ถือได้ว่ายากที่สุดในการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นก็คือ ขั้นตอนการออกแบบนั่นเอง เพราะโดยทั่วไปแล้วสินค้าที่นำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมมักไม่ใช่สินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการจัดจำหน่ายของบริษัทเราเอง ความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของตัวสินค้านั้นๆ จึงอาจมีไม่มากนัก ดังนั้นขั้นตอนแรกในการเตรียมพร้อมสำหรับจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นจึงเป็นการเลือกตัดสินใจให้ชัดเจนว่าจะออกแบบสินค้านั้นๆ เอง หรือจะเลือกใช้บริการรับออกแบบโดยโรงงานผู้ผลิต ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าดีกว่า โดยหากเลือกออกแบบเองก็ควรมีไอเดียที่ชัดเจนอยู่แล้ว และมั่นใจได้ว่าไอเดียออกแบบนั้นๆ สามารถแมตช์กันได้กับตัวสินค้า เช่น โครงการบ้านเดี่ยว มักจะนิยมทำร่มแจกโดยมีการสกรีนโลโก้ลงบนร่มด้วย เพื่อให้เป็นที่จดจำและเป็นการโปรโมทโครงการไปในตัวเมื่อนำร่มไปใช้กางที่อื่นๆ
เลือกโรงงานผู้ผลิตโดยเปรียบเทียบจากผลงาน ตัวอย่างสินค้า อีกขั้นตอนที่ถือว่าค่อนข้างมีผลต่อหน้าตาและคุณภาพสินค้าที่ออกมามากก็คือ การตัดสินใจเลือกโรงงานผู้ผลิตนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานรับผลิตของพรีเมี่ยมอยู่มากมายทั่วประเทศ แต่ความสวยงามและสเปคสินค้าที่ผลิตออกมามีความแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงความปลอดภัยของตัวสินค้า เช่น Power Bank ต้องมี มอก.ก่อนการตัดสินใจสั่งผลิตกับโรงงานใด เราจึงควรทำการเปรียบเทียบจากผลงานการผลิตที่ผ่านๆมา หรือเปรียบเทียบจากตัวอย่างสินค้าที่แต่ละโรงงานมีให้ดู เพื่อที่จะเลือกคุณภาพการผลิตที่ตรงตามความต้องการของเราได้มากที่สุด นอกจากนี้ก็ยังอาจเปรียบเทียบเรื่องของเรทราคา ความคุ้มค่าตามออเดอร์ที่ต้องการร่วมด้วย เพราะปัจจุบันก็มีหลายโรงงานที่แม้ว่าจะใช้วัสดุเหมือนกัน และมีคุณภาพการผลิตที่ไม่แตกต่างกัน แต่กลับตั้งเรทราคาต่างกัน ซึ่งหากยอมเสียเวลาเพิ่มสักหน่อยเพื่อทำการเปรียบเทียบราคา ก็จะทำให้จัดทำของพรีเมี่ยมได้ในเรทราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น
ตรวจเช็คสินค้าจริง อีกขั้นตอนที่ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยเช่นกันก็คือ การตรวจเช็คสินค้าจริงที่ทางโรงงานผลิตออกมา เพื่อดูว่าของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ ถูกผลิตออกมาได้ถูกต้องตรงตามที่ออกแบบไว้ และมีสเปคตามที่ได้ตกลงไว้หรือไม่ โดยในส่วนขั้นตอนนี้เพื่อป้องกันความเสียหายจากการที่โรงงานเดินไลน์ผลิตตามออเดอร์ไปแล้ว เราอาจต้องใส่ใจรายละเอียดในขั้นตอนการตรวจเช็คสเปคก่อนการผลิตกับทางโรงงานให้ดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของวัสดุ สี รูปทรง ลวดลาย ข้อความที่ออกแบบไว้สำหรับพิมพ์ลงบนสินค้า ซึ่งหากมีการตรวจเช็คอย่างดีแล้วก็จะเป็นการช่วยป้องกันความเสียหายจากความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตให้กับทั้งผู้สั่งผลิตและโรงงานผู้ผลิตได้ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วโรงงานผู้รับผลิตของพรีเมี่ยมที่ได้มาตรฐานมักมีบริการในส่วนขั้นตอนการตรวจเช็คก่อนการผลิตตามมาตรฐานของตนเองอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น บางโรงงานอาจมีสรุปสเปคสินค้าชิ้นนั้นๆ ให้ลูกค้าทำการตรวจทานก่อนคอนเฟิร์มการเดินไลน์ผลิต เป็นต้น ดังนั้นแม้จะดูเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความละเอียดในการตรวจเช็ค แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนจนน่าเป็นกังวลสักเท่าไหร่นัก