ไม่ว่าการนำเอา ของพรีเมี่ยม ไปใช้ในโอกาสหรือจุดประสงค์ใดก็แล้วแต่ โดยเฉพาะหากเป็นจุดประสงค์เพื่อนำของพรีเมี่ยมไปใช้ส่งเสริมการตลาดให้กับธุรกิจองค์กรแน่นอนว่าควรให้ความคำนึงถึงเรื่องคุณภาพสินค้าที่จะนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมไว้เป็นปัจจัยสำคัญด้วย เพราะของพรีเมี่ยมที่มีการผลิตอย่างไม่ได้มาตรฐานผู้ใช้งานไม่เกิดความพึงพอใจ หรือแม้แต่การสร้างความเสียหายให้กับแง่มุมใด ๆ ก็ตามแก่ผู้ใช้งาน นั่นย่อมหมายถึงผลลัพธ์ที่ได้กลับมา อาจกลายเป็นผลร้ายต่อการทำการตลาดได้เลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น หากทำกระบอกน้ำเป็นของพรีเมี่ยม เพื่อใช้เป็นสินค้าการตลาดกับแบรนด์เครื่องดื่ม แต่ของพรีเมี่ยมนั้นเกรดไม่ดี สินค้าชำรุดได้ง่าย วัสดุไม่ได้มาตรฐานต่อการสัมผัสกับอาหาร ก็อาจส่งผลไม่ดีตามมาที่แบรนด์นั้น ๆ ได้ เป็นต้น
อีกทั้งการทำของพรีเมี่ยมเพื่อส่งเสริมการตลาด หากนำของพรีเมี่ยมที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้งานนั้นย่อมหมายถึงเม็ดเงินที่ลงทุนไปก็จะต้องสูญเปล่าไปอีกด้วย จะดีกว่าไหมหากใส่ใจต่อคุณภาพของสินค้าของพรีเมี่ยมที่ได้ทำการสั่งผลิตไป แทนที่จะเลือกประหยัดงบประมาณ ด้วยการเห็นแก่ราคาที่ถูกเกินจริง แต่กลับกลายเป็นสร้างความสูญเปล่าในการลงทุน
อย่างไรก็ตามของพรีเมี่ยมที่ราคาเป็นมิตรแต่มีคุณภาพนั้นก็ย่อมมีอยู่จริงเช่นกัน เพียงแต่ว่าราคาเป็นมิตรนั้นจะต้องอยู่ในขอบเขตของความสมเหตุสมผลด้วย และเมื่อได้ราคาที่มีความสอดคล้องกับความเป็นจริงที่พอเป็นไปได้แล้ว สิ่งสำคัญประการต่อมาที่พอจะทำให้ผู้สั่งผลิต ของพรีเมี่ยม จะมั่นใจได้ถึงคุณภาพของสินค้า นั่นก็ต้องเริ่มต้นด้วยการรับรู้ประสิทธิภาพ ของโรงงานผลิตของพรีเมี่ยมเสียก่อน ควรรู้ไว้เป็นพื้นฐานอันดับแรกในการตัดสินใจเลยก็ว่าได้
ผู้ผลิตและจำหน่ายของพรีเมี่ยมแบบครบวงจร นั้นบ่งบอกได้ถึงมาตรฐานของการดำเนินการผลิตของพรีเมี่ยมได้ในโครงสร้างที่ครบครัน ดูมีโครงสร้างการลงทุนที่มีความเป็นผู้ผลิตของพรีเมี่ยมมืออาชีพ โดยเฉพาะหากเป็นผู้ผลิตของพรีเมี่ยมที่มีชื่อเสียงหรือมีประสบการณ์คร่ำหวอดอยู่ในวงการ ของพรีเมี่ยมมาอย่างช้านาน ก็จะสามารถพบเห็นการโฆษณาได้ตามหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้บ่อย ในส่วนนี้ก็จะช่วยเริ่มสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ต้องการสั่งผลิตของพรีเมี่ยม ได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ปัจจัยสำคัญประการต่อมานั่นก็คือ เอกสารหรือใบรับรองความได้มาตรฐานของผู้ประกอบการธุรกิจ ซึ่งในส่วนนี้จะสามารถเพิ่มความมั่นใจได้ว่า ผู้ผลิตของพรีเมี่ยมรายนั้นมีการดำเนินการต่าง ๆอย่างถูกต้องตามหลัก และมีแนวโน้มที่จะไม่มีประวัติด่างพร้อยอีกด้วย
นอกจากนี้ควรพิจารณาถึงขีดความสามารถในการผลิตของพรีเมี่ยมด้วยว่า โรงงานผลิตของพรีเมี่ยมแห่งนั้นมีการผลิตสินค้าอย่างหลากหลายหรือไม่ มีสินค้ากี่ลักษณะ และแต่ละลักษณะนั้นจะต้องใช้ความสามารถมากเท่าใดในการผลิตสินค้า ยกตัวอย่างเช่น บางที่มีการผลิตสินค้าเพียงอย่างเดียวเช่น อาจจะผลิตแฟลชไดร์ฟเพียงอย่างเดียว โรงงานประเภทนั้นอาจให้ความน่าเชื่อถือในเรื่องการผลิตแฟลชไดร์ฟได้ดี แต่อาจมีสินค้าไม่ครอบคลุมต่อความต้องการของลูกค้า เมื่อเทียบกับโรงงานที่มีการผลิตหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟ, ปากกา, ถุงผ้า และสินค้าอื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงทั้งความสามารถของบุคลากร และความสามารถของเครื่องจักรอุตสาหกรรม เพราะยิ่งคุณเลือกสั่งผลิตของพรีเมี่ยมกับโรงงาน ที่มีขีดความสามารถและความเพียบพร้อมของเครื่องไม้เครื่องมือมากเท่าไหร่ นั่นก็หมายถึงว่าของพรีเมี่ยมที่คุณกำลังสั่งผลิตอยู่ จะออกมาเป็นชิ้นงานที่มีโอกาสจะเป็นชิ้นงานคุณภาพที่ดีได้มากขึ้นไปเท่านั้น
ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะได้รับรู้ข้อมูลของโรงงานของพรีเมี่ยม ว่ามีมาตรฐานมากอย่างไรก็ตามแต่หากว่าคุณไม่เคยมีความรู้จักโรงงานแห่งนั้นอย่างแท้จริงมาก่อน คุณก็สามารถสืบค้นได้จากความพึงพอใจของลูกค้ารายต่าง ๆ ที่เคยใช้บริการจากโรงงานผลิตแห่งนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแหล่งชุมชนออนไลน์ใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับวงการผลิตของพรีเมี่ยม โดยหากให้ความสำคัญกับกระบวนการในการเลือกสรรผู้ผลิตตั้งแต่แรก ก็จะสามารถช่วยลดข้อกังวลใจต่อการที่จะได้รับสินค้าของพรีเมี่ยมที่ไม่มีคุณภาพ และเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ ช่วยให้การทำการตลาดภายใน 1 ครั้งนั้น สามารถกล้าที่จะมีการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อความคุ้มค่าต่อการลงทุนในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะโอกาสที่สำคัญจริง ๆ อย่างเช่น การเปิดตลาด หรือช่วงเทศกาลช่วงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้การตัดสินใจให้เท่าทันในครั้งเดียวนั่นเอง