การใช้สมุดโน๊ตให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ในชีวิตของเรานั้น ตั้งแต่วัยเรียนจนมาถึงวัยของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำการบ้านหรือการวางแผนการทำงานต่าง ๆ นั้น มักจะต้องมีการเรียงลำดับขั้นตอนการทำงาน

ในชีวิตของเรานั้น ตั้งแต่วัยเรียนจนมาถึงวัยของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำการบ้านหรือการวางแผนการทำงานต่าง ๆ นั้น มักจะต้องมีการเรียงลำดับขั้นตอนการทำงาน ซึ่งหากเราดำเนินชีวิตโดยไม่มีรูปแบบ ไม่มีแบบแผน ในการทำงานให้ประสบผลดีหรือประสบความสำเร็จอาจจะเป็นไปได้ยาก ดังนั้น สมุดโน๊ตจึงเป็นตัวช่วยที่ดีมากในการช่วยจัดการและวางแผนการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน สมุดโน๊ตนั้น ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่การจดบันทึกข้อมูลหรือเพียงแค่เป็นตัวกลางสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ เพียงเท่านั้น แต่สมุดโน๊ตนั้นสามารถสร้างนิสัยและช่วยในการจัดการปัญหาในชีวิตประจำวันของเราได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งวันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับในการใช้งานสมุดโน๊ตให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และวิธีการจดบันทึกให้ไม่น่าเบื่อมาให้ได้ชมกันค่ะ

สมุดโน๊ตนั้น สามารถช่วยวางแผนการทำงานต่าง ๆ ในแต่ละวันและช่วยในการเตือนความจำของเราได้ดีมาก เพราะบางวันที่เรามีงานที่ต้องทำหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน แน่นอนว่าเมื่อมีงานเยอะย่อมเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย การจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันจึงเป็นการใช้ประโยชน์ของสมุดโน๊ตได้ดีมาก เพราะจะช่วยให้เราสามารถเรียงลำดับความสำคัญและช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนั้นแล้ว สมุดโน๊ตยังช่วยในการฝึกความเป็นระเบียบให้กับตัวเราเองอีกด้วย ฝึกฝนการทำงานตามขั้นตอน ฝึกการวางแผน ช่วยส่งเสริมในเรื่องของกระบวนการทางความคิด การจัดการและแก้ปัญหา เพราะการวางแผนการทำงานในแต่ละวันจะสามารถช่วยให้เราเรียนรู้ปัญหาของงานได้ถูกจุด และสามารถเรียนรู้และแก้ไขข้อผิดพลาดได้

ไม่ใช่เพียงแค่การจดบันทึกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานเท่านั้น การเขียนไดอารี่ลงในสมุดโน๊ตก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตัวเราอย่างมาก ซึ่งการจดไดอารี่นั้นไม่ได้มีข้อจำกัดว่าต้องเขียนตลอดเวลา หรือเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เราเจอ แต่เราอาจจะใช้วิธีการพกพาสมุดโน๊ตใส่ในถุงผ้าติดตัวไว้เพื่อจดเรื่องราวที่น่าประทับใจที่เราได้สัมผัสในระหว่างวันก็ได้เช่นกัน เพราะการจดไดอารี่ลงในสมุดโน๊ตทุกวันนั้น จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำของเราได้มากถึง 34% นอกจากนั้นแล้ว การจดบันทึกไดอารี่ลงในสมุดโน๊ตยังทำให้เราได้ทบทวนเหตุการณ์ต่างในระหว่างวันที่เกิดขึ้นกับเราได้อีกด้วย ช่วยให้เราได้มีเวลาทบทวนข้อดีและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ในเรามีเวลาและมีสมาธิอยู่กับตัวเองมากขึ้น เป็นการเพิ่มความรู้สึกสงบให้กับเราได้มากเลยทีเดียว

สมุดโน๊ตยังสามารถช่วยเพิ่มทักษะการเขียนและการอ่านให้กับเราได้อีกด้วย เพราะการจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ลงในสมุดโน๊ตนั้น มักจะผ่านจากการกลั่นกรอง และการอ่านข้อความนั้นซ้ำ ๆ ในระหว่างการเขียน ทำให้การเขียนสมุดโน๊ตสามารถฝึกฝนในเรื่องของการใช้ภาษาและไวยากรณ์ให้กับเราได้ในทางอ้อม

ถ้าเราอยากจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นนิสัย อันดับแรก เราต้องชื่นชอบในสิ่งที่เราทำก่อน ดังนั้น การที่เราอยากจะเขียนสิ่งต่าง ๆ ให้มีความสนุกและไม่น่าเบื่อนั้น คือการใส่ความเป็นตัวตนของเราลงไปในการเขียน ไม่ต้องฝืนตัวเอง เพราะการจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันนั้น เปรียบเสมือนการที่เราคุยกับตัวเองในทุก ๆ วัน วางแผนชีวิตกับตัวเองว่าควรจะทำอะไรดี อาจจะมีการเขียนข้อความเตือนใจ ข้อความที่อ่านแล้วยิ้มได้ หรืออาจจะใช้ปากกาที่มีสีสันสดใสเพื่อเพิ่มความน่าสนใจหรือเพิ่มวิธีการวาดรูปเข้าไปเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนั้นเรายังสามารถใช้วิธีการตั้งเป้าหมายลงในสมุดโน๊ตได้อีกด้วย เช่นตั้งเป้าหมายในการทำงาน ว่าวันนี้เราสามารถทำงานอะไรได้บ้าง พรุ่งนี้เราจะต้องทำได้มากกว่าเดิม จะทำให้เราอยากที่จะเขียน อยากที่จะจดบันทึกความรู้สึกดี ๆ ของเราลงไปในสมุดโน๊ตได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากการใช้งานในด้านต่าง ๆ แล้ว สมุดโน๊ตยังได้รับความนิยมอย่างมากในการมอบเป็นของขวัญและของชำร่วยตามงานมงคลต่าง ๆ แม้แต่การมอบเพื่อเป็นของพรีเมี่ยมในเชิงธุรกิจก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพราะสมุดโน๊ตก็ยังถือเป็นอุปกรณ์การเรียนที่ยังมีความสำคัญอย่างมากเช่นเดียวกับอุปกรณ์การเรียนอื่น ๆ และที่สำคัญยังถือว่าเป็นสินค้ารักษ์โลกที่สามารถทำการรีไซเคิลได้ง่ายอีกด้วย

สินค้าที่คุณอาจสนใจ


ความคิดเห็น
แชร์

Leave a comment

เทคนิคการจดโน๊ตแบบ Cornell อย่างไรให้อ่านง่าย ทบทวนกี่ครั้งก็เข้าใจ

เทคนิคการจดโน๊ตที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก มีกระแสโด่งดังมากมายว่าการจดโน๊ตแบบนี้นั้นจะทำให้ผู้จดเรียนเก่งขึ้น นั่นก็คือ การจดโน๊ตแบบ Cornell note นั่นเอง การจดโน๊ตแบบ

เทคนิคการจดโน๊ตที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก มีกระแสโด่งดังมากมายว่าการจดโน๊ตแบบนี้นั้นจะทำให้ผู้จดเรียนเก่งขึ้น นั่นก็คือ การจดโน๊ตแบบ Cornell note นั่นเอง การจดโน๊ตแบบ Cornell มีจุดเด่นอยู่ที่การแบ่งหน้ากระดาษบนสมุดโน๊ตให้เป็นสัดส่วน ซึ่งการจัดหน้ากระดาษบนสมุดโน๊ตหรือกระดาษให้เป็นสัดส่วนแบบนี้นั้นทำให้เนื้อหาที่เราจดลงไปมีระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น และสามารถทำความเข้าใจได้ดีมากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่เรากำลังใช้สมาธิในการจดบันทึกอยู่หรือกลับมาทบทวนเนื้อหาบนสมุดโน๊ตเล่มโปรดของคุณอีกครั้ง มีงานวิจัยรองรับว่าการจดโน๊ตแบบ Cornell note เป็นวิธีการจดบันทึกที่ใช้พื้นที่บนดระดาษหรือบนสมุดโน๊ตได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุดวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้

วิธีการแบ่งสัดส่วนของการจดโน๊ตแบบ Cornell Note นั้นมีวิธีการดังต่อไปนี้

พื้นที่ทางด้านซ้ายมือสุดของกระดาษบนสมุดโน๊ต จะเน้นใส่ข้อความ keyword คำถาม ใจความสำคัญ พื้นไม่ได้ใหญ่มาก พื้นที่ทางด้านขวามือจะเน้นในส่วนของเนื้อหาจึงมีพื้นที่บนหน้ากระดาษของสมุดโน๊ตมากที่สุด เพื่อที่เราจะได้จดเนื้อหาลงไป และพื้นที่ด้านล่างสุดจะเป็นแนวนอนยาว ๆ เป็นพื้นที่สำหรับใส่เนื้อหาสรุปต่าง ๆ ลงไป ทั้งหมดนี้นั้นจะเป็นสัดส่วนหลัก ๆ ของการจดโน้ตแบบ Cornell ซึ่งการจดสมุดโน๊ตแบบ Cornell สามารถจดได้ทั้งในห้องเรียนเวลา lecture หรือตอนฟังบรรยายเลยก็ได้หรือว่าใครจะนำวิธีการนี้มาเขียนในเวลาทบทวนอ่านหนังสือที่บ้านก็ได้

อุปกรณ์ในการจดก็หาไม่ยากมีเพียงกระดาษ A4 หรือกระดาษสมุดโน๊ต พร้อมทำการตีเส้นแบ่งเป็น 3 ส่วน ต่อมาที่ขาดไม่ได้เลยก็คือปากกาหรือดินสอเป็นหลักในการจดบันทึก

ขั้นตอนในการจดโน้ตแบบ Cornell Note

1.เริ่มแรกในการจดโน๊ตแบบ Cornell เขียนวันที่และชื่อหัวข้อบนกระดาษหรือสมุดโน๊ตให้เรียบร้อย

2.เลือกเนื้อหาที่จะเขียนและเขียนลงไปที่ช่องด้านขวามือได้เลย ควรจดส่วนนี้ก่อนเป็นส่วนแรกและการจดเนื้อหาต้องมีความกระชับ ใช้คำย่อ ทำให้อ่านง่ายที่สุด ไม่ยาวจนเกินไป สามารถเขียนได้ตามใจเราเลย หรือหากใครต้องการที่จะแปะโพสต์อิทก็สามารถแปะลงไปได้เลย สามารถใช้อุปกรณ์เครื่องเขียนตกแต่งได้ตามสะดวกเลยไม่ว่าจะเป็นปากกาเน้นข้อความต่าง ๆ เพื่อเน้นคำสำคัญ

3.ต่อมาเป็นการจดทางด้านซ้ายมือในการเขียนคีย์เวิร์ด Main Idea ต่าง ๆ (เทคนิคในการเขียนคีย์เวิร์ดควรที่จะอ่านและทบทวนเนื้อหาให้เข้าใจเสียก่อนแล้วจึงเขียนคีย์เวิร์ดที่เป็นใจความสำคัญลงไป เพราะเมื่อเรากลับมาอ่านคีย์เวิร์ดใหม่อีกครั้งจะทำให้เราสามารถเข้าใจเรื่องราวของเนื้อหาทั้งหมดได้อย่างง่ายดายนั่นเอง)

4.ในส่วนสุดท้ายช่องด้านล่างจะเป็นการจดข้อสรุปของเนื้อหาของวันนี้ลงไป เราจะได้รู้ว่า ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร อย่างสั้น ๆ

การจดโน้ตแบบ Cornell เป็นการจดที่ง่ายมาก ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนแต่อย่างใด การจดโน้ตของแต่ละคนจะมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกันบางคนชอบจดบนกระดาษ บางคนชอบจดบนสมุดโน๊ต บางคนชอบจดหรือพิมพ์ในโทรศัพท์มือถือขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน แต่การจดโน๊ตแบบ Cornell Note เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้การจดโน๊ตและกลับมาอ่านทบทวนได้ง่ายขึ้นนั่นเอง เพราฉะนั้นแล้วเราควรลองหาเทคนิควิธีในการจดโน๊ตเฉพาะของตนเองดูเพื่อให้ตนเองมีความถนัดในการจดโน๊ตได้มากที่สุดหรือจะนำการจดโน๊ตแบบ Cornell Note ไปปรับใช้ดูก็เป็นวิธีการที่ไม่เลวเลยเช่นกัน

สินค้าที่คุณอาจสนใจ


ความคิดเห็น
แชร์

Leave a comment

สมุดโน๊ตเพลงสำหรับนักดนตรียุคดิจิทัล

เมื่อโลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี หลายปีที่ผ่านมานี้ เราทุกคนคงจะได้เห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ก่อนที่เราใช้ระบบ manual เป็นส่วนใหญ่ ในยุค Digital 4.0

เมื่อโลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี หลายปีที่ผ่านมานี้ เราทุกคนคงจะได้เห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ก่อนที่เราใช้ระบบ manual เป็นส่วนใหญ่ ในยุค Digital 4.0 ทุกภาคส่วนมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและเท่าทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการผลิตสินค้าทางด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาสู่สายตาคนทั่วโลกมากมาย ตัวอย่างเช่น กระบอกน้ำอัจฉริยะที่มีตัวเลขบอกอุณหภูมิที่ฝาขวด ทำให้ผู้ใช้สะดวกสบายและปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงโดนน้ำร้อนลวกมืออีกต่อไป ร่มพับอัจฉริยะที่นอกจากจะกันแดด กันฝน กันลมได้แล้ว ยังป้องกันกลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์ติดมาได้อีกด้วย และสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย อีกหนึ่งตัวอย่างที่เรียกได้ว่าดเป็นนวัตกรรมล้ำสมัยอย่างมากสำหรับนักดนตรีในยุค 4.0 อย่างสมุดโน้ตเพลงอัจฉริยะ (โน้ตเพลงแบบดิจิทัล) โดยทางบริษัท Terrada Music ของเป็นประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ออกแบบสมุดโน๊ตอัจฉริยะนี้ขึ้นมาให้มีรูปทรงที่สวยงาม บางเฉียบ สมุดโน๊ตอัจฉริยะตัวนี้มีขนาดหน้าสูงถึง 13.3 นิ้ว ขนาดใหญ่เทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องเลยทีเดียวแต่มีความบางกว่ามาก มาพร้อมหน่วยความจำภายในขนาด 8 GB และช่องสำหรับใส่ Micro SD มีระบบ cloud service สำหรับ syne ข้อมูลออนไลน์สำหรับจัดเก็บโน้ตเพลงที่ซื้อมา และยังสามารถอัพโหลดไฟล์ PDF ของตัวลงบนเจ้าสมุดโน๊ตอัจฉริยะเครื่องนี้ได้อีกด้วย จุดเด่นของสมุดโน๊ตอัจฉริยะรุ่นนี้ อย่างแรกเลยนั่นก็คือ หน้าจอแบบคู่ โดยแต่ละจอจะมีความกว้าง x ยาว ที่ 10.67 x 8.0 นิ้ว มีขนาดความกว้างที่มากกว่ากระดาษ A4 แต่มีความหนาเพียงแค่ 6 มิลลิเมตรเท่านั้น มีน้ำหนักเพียง 660 กรัมเท่านั้น สามารถใช้งานผ่านปากกาสไตลัส (Stylus Pen) ของเจ้าสมุดโน๊ตอัจฉริยะเครื่องนี้ แถมยังสามารถแก้ไขรายละเอียด โน๊ตเพลงต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับเราเขียนบนกระดาษจริงๆ และจัดเก็บโน๊ตเพลงได้สูงถึง 4,000 บทเพลงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเจ้าสมุดโน๊ตรุ่นนี้นั้นเข้ามาปฏิวัติรูปแบบการจดบันทึกใหม่ โดยเฉพาะการจดบันทึกโน๊ตเพลงจากแต่ก่อนที่เขียนอยู่บนกระดาษมีความคลาสสิค แต่มีการเสื่อมสภาพตามการเวลา

สมุดโน๊ตอัจฉริยะเป็นอุปกรณ์ตัวใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับนักดนตรีโดยเฉพาะ สำหรับใครที่ชอบพกสมุดโน๊ตกระดาษ เมื่อมีการใช้งานเป็นประจำ ตัวหนังสือเริ่มจางลงจนอ่านแทบไม่ออก สีกระดาษเริ่มเปลี่ยนเป็นความคลาสสิคมากขึ้น จะให้ดุโน๊ตเพลงจากมือถือหรือแท็บเล็ตก็อาจจะเล็กไปหน่อยสำหรับเพลงที่มีโน๊ตจำนวนมากแถมจ้องนาน ๆ ทำให้เกิดอาการตาล้า ปวดตาขึ้นมาได้ สำหรับเจ้าสมุดโน๊ตอัจฉริยะรุ่นนี้ที่ให้ขนาดหน้าจอกว้างมาก สามารถอ่านโน้ตได้สบายตา แถมจะทำการเปลี่ยนหน้าก็สะดวกรวดเร็วเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น

คุณสมบัติไม่ธรรมดาขนาดนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าราคาของสมุดโน้ตอัจฉริยะเครื่องนี้อยู่ที่เท่าไหร่

โดยราคาของสมุดโน้ตอัจฉริยะตัวนี้ในตอนเปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น อยู่ที่ราคาประมาณ 1,600 US ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ ราคา 56,000 บาท ยังไม่รวมภาษีอากร โดยประมาณ แถมยังมีอุปกรณ์เสริมที่สามารถเลือกซื้อเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานของเจ้าสมุดโน๊ตอัจฉริยะเครื่องนี้ได้อีกด้วย

เทคโนโลยีบนโลกใบนี้ถูกพัฒนาไปอย่างก้าวไกล หากเราไม่ปรับตัวและเรียนรู้ให้ก้าวทันเทคโนโลยีต่าง ๆ นั้น อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราอยู่ก็เป็นได้ การเรียนรู้ไม่เสียหาย ถึงแม้จะล้มเหลวจากการลองผิดลองถูกมามากมายแต่อยากน้อยก็ยังได้เรียนรู้และพบกับเส้นทางที่ถูกต้อง และสามารถนำไปพัฒนาต่อเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของเราได้อย่างแน่นอน ไม่มีผู้ประสบความสำเร็จท่านใดที่ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน

 

สินค้าที่คุณอาจสนใจ


ความคิดเห็น
แชร์

Leave a comment