BLOG | โรงงานของพรีเมี่ยม - Page 8

อีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็จะ ถึงวันสำคัญอีกวันหนึ่งของปี คือในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั่นเอง เทศกาลปีใหม่ถือเป็นวัฒนธรรมและประเพณีที่สำคัญ เป็นเทศกาลและประเพณีแห่งการเฉลิมฉลอง สิ่งที่นิยมทำกันในวันสำคัญวันนี้ก็คือ การมอบของขวัญให้แก่กันไม่ว่าจะเป็นการมอบของขวัญให้แก่กันในระดับของบุคคลไปจนถึงในระดับขององค์กรด้วย องค์กรต่าง ๆ หรือแบรนด์ต่าง ๆ เอง ก็หนีไม่พ้นที่จะมีการแจกของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้า และวันนี้เองเราจะมาดูเรื่องของของพรีเมี่ยมนี้กัน

ของพรีเมี่ยมหรือของขวัญที่มอบให้แก่กันในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ได้ แน่นอนว่ามีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลาย และที่จะมาแนะนำในวันนี้ก็ถือเป็นอีกหลายไอเดีย สำหรับการมอบของขวัญให้ในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ในปี 2024 ที่จะมาถึง ถือเป็นไอเดียของที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี ของพรีเมี่ยมเหล่านี้เป็นอะไรบ้าง ไปดูกัน

ปฏิทิน

ปฏิทินถือเป็นของพรีเมี่ยมที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะในระดับไหนก็ตาม ปฏิทินสามารถนำไปไว้ได้แทบจะทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบนโต๊ะทำงาน อาจจะเป็นปฏิทินแบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถจดโน้ตหรือเขียนข้อความบางอย่างลงไปได้ด้วย หรืออาจจะเป็นปฏิทินแบบแขวน ที่จนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ อาจจะมีการออกแบบลวดลาย หรือออกแบบให้มีลักษณะน่าสนใจ เป็นเหมือนกับ planner ในตัวได้ด้วยก็ดีเหมือนกัน การออกแบบปฏิทินนั้นมีความหลากหลาย สามารถที่จะออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานได้ โดยแบบที่จะมานำเสนอมี 2 แบบ

ปฏิทินแบบตั้งโต๊ะเป็นแบบที่เรามักจะพบเห็นในงาน โต๊ะทำงาน หรือหน่วยงานต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากมีขนาดเล็กพอที่จะวางบนโต๊ะทำงาน หรือมุมใดมุมหนึ่งตามบ้านได้อย่างเหมาะสมเป็นอย่างดี อีกแบบที่อยากจะแนะนำคือปฏิทินแบบแขวน สามารถจะทำออกมาได้ทั้งแบบไทยและแบบจีน ถึงแม้จะเป็นของที่หลายแบรนด์มักจะใช้แจกและนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมอยู่บ่อย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นของชิ้นนี้ก็ยังน่าสนใจและน่าหยิบมาใช้งานอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันปีใหม่ 2024

บรรดากระบอกน้ำและแก้วน้ำ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบรรดากระบอกน้ำและแก้วน้ำไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำพลาสติก กระบอกน้ำสแตนเลสหรือแก้วน้ำเก็บความเย็น ก็ยังถือเป็นของพรีเมี่ยมยอดนิยมตลอดกาลที่ไม่ตกเทรนด์ เนื่องจากเป็นของที่มีประโยชน์ และทุกคนสามารถหยิบมันมาใช้งานได้อย่างแน่นอน ผู้คนยังนำกระบอกน้ำหรือแก้วน้ำมาใช้ได้ในทุกสถานที่และในหลายสถานการณ์ด้วย นอกจากนี้ในยุคที่หลายคนก็หันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมกันมากยิ่งขึ้น บรรดาของเหล่านี้ก็ยิ่งมีความจำเป็นไปอีก ถึงแม้ว่ากระบอกน้ำและแก้วน้ำในปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปบ้าง ความนิยมจะแตกต่างออกไปในแต่ละปี แต่ก็ยังคงเป็นกระบอกน้ำและแก้วน้ำอยู่ ที่ผู้คนนิยมใช้งาน และมักนำมาแจกเป็นของขวัญสุดคลาสสิก

สมุดโน้ตและสมุดบันทึก

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีอะไรดีไปกว่าการมี planner ดี ๆ สักเล่ม หรือสมุดจดโน้ตดี ๆ สักเล่ม หากออกแบบสมุดโน้ตมาเป็นอย่างดี เชื่อได้เลยว่าไม่ว่าใครก็อยากหยิบมันมาใช้งานด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะสำหรับผู้คนวัยทำงาน ที่อาจจะมีสมุดโน้ตในรูปแบบของ planner ช่วยในการจดบันทึก เตือนความจำ หรืออาจจะเป็นตัวกำหนดเป้าหมายในปี 2024 ได้ ทางแบรนด์อาจจะทำการใส่ลวดลายหรือโลโก้ของทางแบรนด์ไปเอง เชื่อว่าสิ่งนี้ไม่มีปัญหาสำหรับผู้ใช้งานอย่างแน่นอน เพราะหากออกแบบมาได้น่าสนใจและน่าใช้งาน ไม่ว่าใครก็หยิบสมุดโน้ตหรือ planner นี้มาใช้งานได้ด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นนี่จึงถือเป็นตัวเลือกของพรีเมี่ยมที่ดีและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม

ใกล้ช่วงสิ้นปีแล้ว คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจเตรียมพร้อมที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลในออฟฟิศ และเตรียมของขวัญพนักงานเพื่อมอบในงานเลี้ยงแล้วหรือยัง หากยังคิดไม่ออกว่าจะจัดซื้ออะไรมาดี วันนี้เราก็มีไอเดียของพรีเมี่ยมดี ๆ เกี่ยวกับการซื้อของขวัญพนักงานที่ถูกใจแก่เหล่าพนักงานมาฝากกัน โดยจะมีอะไรบ้างนั้นเราไปดูเลยดีกว่า

แน่นอนว่าการเลือกซื้อของขวัญพนักงานสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก คือราคาต้องมีความสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้มา ซึ่งก็ควรเลือกอย่างเหมาะสมโดยไม่ให้ดูน่าผิดหวัง แนะนำให้เน้นเลือกของขวัญพนักงานที่มีประโยชน์ สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่บ้าน เป็นต้น

ของขวัญพนักงาน ของพรีเมี่ยม แบบราคาทั่วไป

1.หมอนรองคอ
เป็นของพรีเมี่ยมที่ช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม รวมถึงอาการปวดเมื่อยคอ และยังช่วยให้หลับได้ง่ายอีกด้วยนอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับใช้พักในออฟฟิศหรือใช้สำหรับตอนท่องเที่ยวได้อีกด้วย

2.แก้วเก็บความเย็น
แก้วเก็บความเย็นเป็นไอเทมขวัญใจชาวไทย จากสภาพอากาศที่ร้อนเกือบตลอดทั้งปี ทำให้เจ้าแก้วเก็บความเย็นนี้ต้องอยู่ใกล้ตัวคนทำงานเสมอ ที่สำคัญคือมันเป็นของพรีเมี่ยมที่มีติดบ้านเยอะ ๆ ได้ ต่อให้ได้ซ้ำก็ไม่มีปัญหาอะไร
และยังสามารถพกพาไปได้ทุก ๆ ที่อีกด้วย

3.อุปกรณ์เก็บข้อมูล
ไม่ว่าจะ Flash drive หรือ Memory card ก็ล้วนเป็นของสำคัญที่ขาดไม่ได้ในที่ทำงาน แต่ด้วยความที่มีขนาดเล็กจึงอาจทำให้สูญหายได้ง่าย รวมถึงอุปกรณ์เหล่านี้ก็มีอายุการใช้งานจำกัดด้วย ดังนั้นยิ่งมีหลายอันสำรองไว้เท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยแบ่งเบาภาระให้แก่พนักงานได้มากขึ้นเท่านั้น

4.กระเป๋าใส่อุปกรณ์ หรือ กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือของขวัญพนักงานยอดฮิตที่ทุกองค์กรทุกบริษัทต่างมอบให้ ซึ่งเป็นของพรีเมี่ยมที่สร้างประโยชน์และใช้งานได้จริง ๆ เพราะไม่ว่าใครต่างก็ต้องการความสะดวกในการขนสัมภาระไปมาในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

5.ร่ม
ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าฝนพกร่มติดตัวไว้ย่อมดีกว่าเสมอ โดยเฉพาะพนักงานที่ไม่มีรถประจำตัว เพราะหากต้องยืนรอรถในอากาศร้อน ๆ คงแย่มากซึ่งแนะนำให้ซื้อร่มที่มีขนาดกะทัดรัดสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าได้สะดวก อย่างเช่น ร่มพับ

ของขวัญพนักงาน ของพรีเมี่ยม แบบราคาทั่วไปอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คูปองบุฟเฟ่ต์อาหาร, หูฟัง, Power Bank,หม้อสุกี้ หรือ หม้อหุงข้าว, แฟลชไดร์ฟ, ปากกา เป็นต้น

ของขวัญพนักงานแบบพรีเมี่ยม

1.โทรศัพท์มือถือ
เป็นที่ทราบกันดีว่าโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นในชีวิตประจำวันแล้ว และยังเป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานต้องคอยเปลี่ยนอย่างต่ำทุก ๆ 2-3 ปี อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่มีราคาแพง และใช้ประโยชน์ได้มากมายจึงเป็นที่ถูกใจเมื่อได้เป็นของขวัญอย่างแน่นอน

2.ตั๋วเที่ยวต่างประเทศ
สำหรับพนักงานแล้วการจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศถือเป็นโอกาสที่หาได้ยาก เพราะจำเป็นต้องใช้เงินสูง บวกกับโอกาสลางานที่มีจำกัด ดังนั้นหากแจกรางวัลใหญ่เป็นตั๋วเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งค่อนข้างเป็นของพรีเมี่ยม ก็เป็นอะไรที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

ของขวัญพนักงานแบบพรีเมี่ยม อื่น ๆ
โทรทัศน์, ตู้เย็น,คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตม หรือมอเตอร์ไซค์ , ลำโพงบลูทูธ เป็นต้น

โดยของขวัญพนักงานที่มีราคาเป็นของพรีเมี่ยม มักจะแจกเนื่องในโอกาสเป็นรางวัลใหญ่ ของขวัญสำหรับพนักงานดีเด่น หรือบริษัทประสบความสำเร็จตามเป้า จึงได้งบพอสำหรับจัดซื้อนั่นเอง

ทั้งนี้จะเลือกซื้อของขวัญพนักงานหรือของพรีเมี่ยมชิ้นใด ก็ควรเตรียมงบให้เหมาะสมกับบริษัทด้วย อาจไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อของราคาถูกหรือแพงเกินไปหากมีงบประมาณที่จำกัด เพราะไม่ว่าแบบไหนก็สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มแก่ผู้รับได้

หากจะแบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทางการตลาดตามปัจจัยช่วงอายุ หรือช่วงปีที่เกิดก็แน่นอนว่ากลุ่มที่มีความโดดเด่น แตกต่างจากกลุ่มอื่น ๆมากที่สุดย่อมต้องเป็นกลุ่มเป้าหมายเจเนอเรชั่น Z ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงวัยเรียน และช่วงวัยเริ่มต้นชีวิตการทำงาน ซึ่งเติบโตมาพร้อมกับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ และค่านิยมการบริโภคใหม่ ๆ ที่แตกต่างไปจากผู้บริโภคในเจเนอเรชั่นก่อน ๆ เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่น่าจะเป็นโจทย์ยากที่สุดสำหรับนักการตลาดของแบรนด์ องค์กรต่าง ๆ ที่ต้องมีการทำแผนการตลาดสำหรับสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เช่นเดียวกับการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นสำหรับใช้เป็นสินค้าตัวแทนในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย Gen Z ในแคมเปญต่าง ๆ ที่นับว่าค่อนข้างยากและต้องอาศัยไอเดียที่แตกต่างไปจากกลุ่มลูกค้า Gen อื่น ๆ เพื่อสร้างความประทับใจ ในบทความนี้จึงได้คัดเอาไอเดียของพรีเมี่ยมที่เหมาะจะใช้งานโปรโมทแบรนด์ องค์กร หรือสื่อสารแคมเปญต่าง ๆ แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย Gen Z มาแนะนำให้ได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกออกแบบและผลิตของพรีเมี่ยมที่สามารถสื่อสารการตลาดแก่ผู้บริโภคเจเนอเรชั่นนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ของพรีเมี่ยมที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่คุ้มค่า และหลากหลาย หนึ่งในพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มลูกค้าเจเนอเรชั่น Z ที่โดดเด่น แตกต่างไปจากเจเนอเรชั่นอื่น ๆ อย่างชัดเจนก็คือการให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งานของตัวสินค้า กล่าวคือสินค้าที่เป็นที่ชื่นชอบและมักดึงดูดการจับจ่ายจากผู้บริโภค Gen Z ได้มักจะเป็นสินค้าที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่รู้สึกได้ถึงความคุ้มค่า และหลากหลายกว่าประโยชน์ใช้งานดั้งเดิมทั่วไปของตัวสินค้า ดังนั้นไอเดียที่เหมาะจะนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในแคมเปญการตลาดที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า Gen Z จึงเป็นของพรีเมี่ยมประเภทที่ใส่ฟังก์ชันการใช้งานรอง หรือฟังก์ชันเสริมมาด้วย ตัวอย่างเช่น พวงกุญแจที่มาพร้อมไฟฉายขนาดเล็ก ลำโพงบลูทูธที่มาพร้อมหน้าจอนาฬิกาดิจิทัล เป็นต้น
ของพรีเมี่ยมที่มีรูปทรงแปลกตา อีกหนึ่งคุณลักษณะที่โดดเด่นของผู้บริโภค Gen Z ก็คือรสนิยมด้านดีไซน์สินค้า หรือรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ยึดติดกับแพทเทิร์นเดิมๆ เหมือนผู้บริโภคเจนฯก่อนๆ ตัวอย่างเช่น ดีไซน์กระบอกน้ำที่เป็นถูกใจและนิยมใช้งานในกลุ่มผู้บริโภคเจนฯอื่นๆ อาจเป็นกระบอกน้ำรูปทรงกระบอกกลมทรงสูงทั่วไป แต่สำหรับผู้บริโภคเจนฯ Z แล้ว ดีไซน์กระบอกน้ำที่สะดุดตา เรียกความสนใจได้อาจเป็นกระบอกน้ำทรงเตี้ย ทรงกระปุก หรือทรงเหลี่ยม เป็นต้น การจะออกแบบของพรีเมี่ยมสักชิ้นสำหรับใช้ในแคมเปญที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคเจนฯ Z จึงควรเลือกใช้รูปทรงที่ดูแปลกตา แตกต่างไปจากรูปทรงมาตรฐานดั้งเดิมทั่วไปของสินค้าชิ้นนั้น ๆ ใช้ลวดลายที่เรียบง่าย แม้ว่าความแปลกใหม่ สะดุดตาของรูปทรงสินค้าแบบต่าง ๆ จะเป็นรสนิยมการบริโภคส่วนหนึ่งของกลุ่มลูกค้าเจเนอเรชั่น Z ดังกล่าวข้างต้น แต่หากว่ากันที่รายละเอียดการออกแบบในส่วนของลวดลายที่พิมพ์ลงบนตัวสินค้าแล้ว ต้องบอกว่าผู้บริโภคเจนฯ Z นั้นมีรสนิยมชื่นชอบในความเรียบง่ายของลวดลาย หรือสีสันที่ใช้ อันเป็นอิทธิพลมาจากกระแส Minimalst ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีหลังและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเวลาอันรวดเร็วจนผู้บริโภคเจนฯใหม่ๆ มองว่าเป็นมาตรฐานดีไซน์สินค้ายุคใหม่ไปแล้ว ดังนั้นการเลือกออกแบบ ผลิตของพรีเมี่ยมสักชิ้นเพื่อใช้ในแคมเปญการตลาดที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเจนฯ Z จึงควรที่จะเลือกใช้ลวดลาย และสีสันที่ดูเรียบง่าย เช่น ลวดลายที่ดัดแปลงมาจากทรงเลขาคณิต หรือลวดลายธรรมชาติต่างๆ โทนสีขาว ครีม เทาอ่อน เป็นต้น เช่นเดียวกับการพิมพ์ข้อความแคมเปญใดๆ ลงไปบนตัวของพรีเมี่ยมก็ควรที่จะเลือกข้อความที่สั้น กระชับ ซึ่งไม่ทำให้ภาพรวมดีไซน์สินค้าดูรกเกินไป

เมื่อพูดถึงการจัดทำของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ประโยชน์ในทางการตลาด ใช้เป็นสินค้าแจกแถมให้แก่กลุ่มลูกค้าในโปรโมชั่นต่างๆ หรือใช้เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนขององค์กร บริษัทในแคมเปญใดๆ หลายคนคงพอทราบกันดีอยู่แล้วว่า สินค้ากลุ่มหนึ่งที่ถือเป็นไอเดียยอดนิยมในการเลือกนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมในยุคนี้ก็คือ สินค้าหมวดแก็ดเจ็ต หรืออุปกรณ์เสริมไอทีชิ้นเล็กๆ ที่มีประโยชน์ใช้งานเฉพาะตัว เช่น ลำโพงบลูทูธ หูฟังไร้สาย แฟลชไดร์ฟ พัดลมพกพา พัดลมมือถือ เป็นต้น เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่นั้นมีความสัมพันธ์กับการใช้งานเทคโนโลยี อุปกรณ์ไอทีต่างๆ อยู่ตลอดเวลา สินค้าพรีเมี่ยมที่มีลูกเล่นจากนวัตกรรมใหม่ๆ หรือสามารถเชื่อมต่อ ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ได้ จึงมักเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้ดีกว่าสินค้าที่มีประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานทั่วไป อย่างไรก็ตามพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกสินค้ามาทำเป็นของพรีเมี่ยม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดีที่สุดก็คือการเลือกสินค้าที่มีประโยชน์การใช้งานไม่ซับซ้อน ครอบคลุมความต้องการ หรือความสนใจในตัวสินค้าจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจำนวนมากได้อย่างเช่น ปากกา แฟลชไดร์ฟ พัดลมมือถือ และอื่น ๆ มากมาย ดังนั้นสินค้าแก็ดเจ็ตบางชิ้นที่มีความสนใจเฉพาะกลุ่ม จึงอาจจะไม่เหมาะที่จะเลือกนำมาใช้เป็นของพรีเมี่ยมสำหรับแคมเปญการตลาดต่างๆ สักเท่าไหร่ ซึ่งในบทความนี้ก็ได้รวบรวมเอาสินค้าแก็ดเจ็ตที่ควรหลีกเลี่ยงใช้เป็นของพรีเมี่ยมมาแนะนำบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน
คีย์บอร์ดบลูทูธ แม้ว่าอุปกรณ์ไอทีอย่างแท็บเล็ตจะเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคเจเนอเรชั่นใหม่ๆ และหนึ่งในแก็ดเจ็ตที่นิยมนำมาเชื่อมต่อ ใช้งานควบคู่กันก็คือ คีย์บอร์ด หรือแป้นพิมพ์บลูทูธ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแก็ดเจ็ตชิ้นนี้เหมาะจะเลือกนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับแจก แถมให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแคมเปญการตลาดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลักษณะของตัวแก็ดเจ็ตที่ไม่ได้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด หรือพกพาได้สะดวกสักเท่าไหร่ อีกความต้องการใช้งานถือว่าอยู่ในวงจำกัด ซึ่งอาจจะไม่ได้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทในจำนวนที่มากพอ เพราะแม้ว่าจะเป็นแก็ดเจ็ตยอดฮิตที่นิยมนำมาเชื่อมต่อใช้งานคู่กับแท็บเล็ต แต่ขณะเดียวก็มีผู้ใช้งานจำนวนมากเช่นกันที่ใช้งานแท็บเล็ตเพียงแค่การทัชหน้าจอ หรือใช้ควบคู่กับปากกาสไตลัส โดยไม่มีมีความต้องการใช้งานแป้นพิมพ์
สมาร์ทวอทช์ ปัจจุบันสมาร์ทวอทช์ หรือนาฬิกาข้อมือที่ใช้งานเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็ถือเป็นอีกหนึ่งแก็ดเจ็ตยอดฮิตที่ผู้บริโภคยุคใหม่จำนวนมากมีความต้องการใช้งาน เรียกว่าเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นหนึ่งที่อยู่ในเทรนด์ความนิยมอันดับต้นๆ ในยุคนี้ แต่ก็มีเหตุผลหลายประการด้วยกันที่ทำให้สมาร์ทวอทช์ไม่เหมาะที่เราจะเลือกนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ประโยชน์ทางการตลาด หรือการช่วยโปรโมทแบรนด์ องค์กร ทั้งเรื่องของต้นทุนราคาผลิตที่สูง การควบคุมคุณภาพการผลิตที่ยาก เนื่องจากสินค้ามีความซับซ้อนในการใช้เทคโนโลยี ความเชื่อมั่นในแบรนด์ของผู้บริโภคที่มีต่อแก็ดเจ็ตชิ้นนี้ ซึ่งผูกติดอยู่กับแบรนด์ชื่อดังเพียงไม่กี่เจ้า เรียกได้ว่าการที่ผู้บริโภคจะเปิดใจใช้งานสมาร์ทวอทช์จากแบรนด์โนเนมนั้นมีไม่มากนั่นเอง จึงถือเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นหนึ่งที่ไม่ควรเสี่ยงทำเป็นของพรีเมี่ยม
โคมไฟ USB สำหรับชาวไอทีแล้ว โคมไฟ USB ดีไซน์เก๋ๆ อาจจะเป็นไอเทมยอดฮิตชิ้นหนึ่งที่นิยมใช้ตกแต่งโต๊ะทำงาน และเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้แสงสว่างบนโต๊ะทำงานอยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่เมื่อมองในแง่ของการตลาดแล้ว ต้องบอกว่าเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นที่ไม่เหมาะจะหยิบจับมาทำเป็นของพรีเมี่ยมสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะรูปทรง ขนาดของตัวแก็ดเจ็ตที่อาจจะใหญ่เกินกว่าจะใช้เป็นของแจกแถม ต้นทุนการผลิตที่สูง การดีไซน์ที่มีความยืดหยุ่นมากเกินไป และยากต่อการดีไซน์ให้ตัวแก็ดเจ็ตออกมาเป็นของพรีเมี่ยมที่ตรงกับรสนิยมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจำนวนมาก หรือสรุปง่ายๆ ได้ว่าโคมไฟ USB เป็นแก็ดเจ็ตที่ตัวผู้ใช้งานมักพิถีพิถันในการเลือกซื้อให้ได้ดีไซน์ และฟังก์ชั่นที่ตรงกับความต้องการของตัวเองนั่นเอง

เมื่อพูดถึงการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ก็แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว บริษัท องค์กรต่าง ๆ หรือบรรดานักการตลาดมักจะถึงเรื่องของการออกแบบรูปทรง หน้าตาของสินค้าชิ้นนั้น ๆ เพื่อให้สินค้าดูมีความแมตช์กันได้กับแคมเปญ หรือสามารถสื่อสารเอกลักษณ์ของแบรนด์องค์กรเราออกไปได้ดีที่สุด เรียกได้ว่าหลายคนมักหลงลืมที่จะใส่ใจในรายละเอียดอื่น ๆ ของตัวสินค้าไปนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสินค้าที่นิยมเลือกนำมาใช้เป็นของพรีเมี่ยมกันมักจะเป็นสินค้าประเภทของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างเช่น ปากกา กระบอกน้ำ power bank ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตที่ไม่ซับซ้อนอะไร แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว การผลิตสินค้าสักชิ้นเพื่อใช้เป็นของพรีเมี่ยมสำหรับกิจกรรมทางการตลาดนั้น มีรายละเอียดหลายส่วนที่เราต้องใส่ใจและส่งผลต่อประสิทธิผลทางการตลาดที่จะได้รับมากกว่าเราคิดไว้ ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำให้ได้ทราบกันว่ามีรายละเอียดส่วนไหนบ้างที่เราต้องใส่ใจตรวจเช็คในงานผลิตของพรีเมี่ยมต่าง ๆ
รูปแบบการพิมพ์ชื่อ โลโก้ อย่างที่ทราบกันดีว่าส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ และทำให้ตัวสินค้าดูแตกต่างไปจากสินค้าที่มีวางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดก็คือ ชื่อแบรนด์ องค์กร และโลโก้ หรือตราสัญลักษณ์ที่จะพิมพ์ลงไปบนตัวสินค้านั่นเอง เพราะถือเป็นส่วนที่มีผลต่อการกระตุ้นการจดจำแบรนด์ หรือองค์กรของเราในหมู่ลูกค้ามากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหลายคนมักจะให้ความสำคัญกับการออกแบบ การเลือกฟอนต์ การเลือกสี การดีไซน์โลโก้ที่จะพิมพ์ลงไป แต่ทว่าในขั้นตอนการผลิตจริง ๆ ยังมีสิ่งสำคัญสำคัญอีกอย่างที่เราควรใส่ใจเลือก ซึ่งก็คือการเลือกรูปแบบการพิมพ์นั่นเอง โดยรูปแบบ หรือวิธีการพิมพ์ข้อความ สัญลักษณ์ต่าง ๆ ลงไปบนของพรีเมี่ยมชิ้นใด ๆ นั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบด้วยกัน และแต่ละรูปแบบก็มีข้อดี ข้อเสียและความเหมาะสมกับพื้นผิวของตัวสินค้าที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงมีต้นทุนที่แตกต่างกันด้วย ตัวอย่างเช่น การสกรีนน้ำหมึกลงบนตัวสินค้าโดยผ่านบล็อค วิธีนี้จะเหมาะสำหรับของพรีเมี่ยมประเภทที่ใช้วัสดุเส้นใยธรรมชาติ กระเป๋าผ้า เสื้อยืด การพิมพ์แบบ Flex Print(เฟล็กซ์ ปริ้น) หรือก็คือการรีดติดด้วยความร้อน วิธีนี้มีข้อดีตรงที่ชื่อ ตัวอักษร หรือโลโก้ใด ๆ ที่พิมพ์ลงไปนั้นจะดูมีมิติมากกว่าการสกรีน ซึ่งก็เหมาะสำหรับของพรีเมี่ยมประเภทเสื้อผ้าเช่นกัน การพิมพ์แบบ UV Printing ยูวีปริ้นท์ติ้งถือเป็นเทคนิคการพิมพ์คุณภาพ มีความยืดหยุ่นในการพิมพ์ลงบนพื้นผิวหลากหลาย เรียกได้ว่าครอบคลุมกับสินค้าทุกรูปแบบทั้งเสื้อผ้า แก้วน้ำ พลาสติก โลหะ และยังมีข้อดีตรงที่สามารถเลือกผิวสัมผัส หรือเทกเจอร์ของข้อความ โลโก้ที่พิมพ์ลงไปได้ด้วย เช่น แบบมันวาว แบบนูนด้าน เป็นต้น
เทคนิคการตัดเย็บ อย่างที่ทราบกันว่าของพรีเมี่ยมยอดนิยมหลายชิ้นนั้นผลิตโดยวัสดุประเภทผ้า หรือเส้นใยธรรมชาติต่าง ๆ เช่น กระเป๋า เสื้อยืด เสื้อโปโล แจ็คเก็ต ผ้าห่ม ฯลฯ ซึ่งกระบวนการผลิตที่ถูกใช้กับวัสดุเหล่านี้โดยตรงก็คือการตัดเย็บนั่นเอง ดังนั้นอีกหนึ่งรายละเอียดที่เราควรให้ความสำคัญก็คือการเลือกรูปแบบการตัดเย็บนั่นเอง ซึ่งโรงงานผู้ผลิตของพรีเมี่ยมก็จะมีรูปแบบการตัดเย็บให้เราเลือกตามความเหมาะสมของตัวสินค้า หรือคุณภาพสินค้าที่เราคาดหวัง ตัวอย่างเช่น การตัดเย็บแบบไร้รอยต่อ การตัดเย็บแบบไร้ตะเข็บ การตัดเย็บโดยใช้ผ้าหลายชิ้นมาเย็บต่อกัน เป็นต้น โดยรูปแบบ หรือเทคนิคการตัดเย็บดังกล่าวก็อาจทำให้ต้นทุนในการสั่งผลิตของพรีเมี่ยมชิ้นนั้น ๆ แตกต่างกันออกไปด้วย เราจึงควรตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมกับคุณภาพที่คาดหวังและงบประมาณที่มี

ในการเลือกหาสินค้าสักชิ้นมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรม หรือแคมเปญการตลาดต่างๆ นั้น หลายคนอาจจะพอทราบกันดีอยู่แล้ว เราจำเป็นต้องคัดเลือกจากคุณสมบัติของตัวสินค้าที่เหมาะสมสำหรับใช้ประโยชน์ทางการตลาด ตัวอย่างเช่น เป็นสินค้าที่มีต้นทุนราคาต่อชิ้นถูก มีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถใช้ได้กับกลุ่มลูกค้าหลากหลายช่วงอายุ เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าสินค้าบางหมวด บางชนิดจะมีคุณสมบัติเข้าข่ายที่จะใช้เป็นของพรีเมี่ยมได้หลายประการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสินค้าที่เหมาะสำหรับเลือกนำมาใช้เป็นสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับแคมเปญการตลาดต่างๆ เสมอไป เนื่องด้วยอาจมีข้อจำกัดบางประการที่ทำให้สินค้าชนิดนั้นๆ แตกต่างไปจากของพรีเมี่ยมทั่วๆไป ตัวอย่างเช่น สินค้าหมวดเครื่องประดับ สร้อยข้อมือ สร้อยคอ ปลอกแขนแฟชั่น ฯลฯ ซึ่งเป็นหมวดสินค้าที่มีราคาต้นทุนในการสั่งผลิตต่ำ มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้วัสดุผลิต และมีขนาดกะทัดรัดจนทำให้นักการตลาดบางคนเข้าใจผิดว่ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะใช้ทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับแจก แถมให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ และนำมาซึ่งผลลัพธ์ทางการตลาดที่น่าผิดหวังเมื่อนำไปใช้งานจริง ในบทความนี้จึงจะมาอธิบายให้ได้ทราบกันว่าทำไมสินค้าอย่างเครื่องประดับที่ดูจะมีคุณสมบัติเหมาะสมในการใช้เป็นของพรีเมี่ยมในแคมเปญการตลาดต่างๆ จึงไม่เป็นที่นิยมและไม่ควรนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด
เครื่องประดับเป็นสินค้าที่ไม่ได้มีประโยชน์ใช้สอยที่จำเป็น เหตุผลสำคัญประการแรกที่ทำให้สินค้าหมวดเครื่องประดับไม่เหมาะจะใช้เป็นของพรีเมี่ยมสำหรับแคมเปญการตลาดๆ แม้ว่าตัวสินค้าจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาได้สะดวก เช่นเดียวกับคุณสมบัติพื้นฐานทั่วไปของสินค้าพรีเมี่ยมยอดนิยมก็คือ การที่สินค้าไม่มีประโยชน์ใช้สอยที่จำเป็นนั่นเอง ประโยชน์หนึ่งเดียวสำหรับสินค้าหมวดเครื่องประดับแฟชั่นก็คือ ความเป็นแฟชั่น หรือความสวยงามนั่นเอง ขณะที่ของพรีเมี่ยมยอดนิยมหลายๆ ชิ้น ล้วนมีประโยชน์ใช้สอยที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น เสื้อยืด ปากกา ร่ม ทั้งนี้การที่ตัวสินค้ามีประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตประจำวันนั้นจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการหยิบจับสินค้ามาใช้งานบ่อย และนั่นก็จะกระตุ้นให้ตัวผู้บริโภคจดจำที่มาของตัวสินค้า หรือแบรนด์ องค์กรที่จัดทำขึ้นมาได้ดีขึ้นไปด้วยนั่นเอง
รสนิยมด้านแฟชั่นของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นมีหลากหลายและคาดเดาได้ยาก ตามเหตุผลเรื่องประโยชน์ใช้สอยที่จำเป็นตามที่อธิบายไปในข้อแรกนั้น หากมองในมุมของการคาดเดาผลลัพธ์ทางการตลาดก็อาจมีข้อโต้แย้งได้ว่า แม้ตัวสินค้าจะไม่มีประโยชน์ใช้สอยที่จำเป็น แต่ผู้บริโภค หรือตัวลูกค้าที่ชื่นชอบในเครื่องประดับชิ้นนั้นๆ ก็อาจหยิบจับของพรีเมี่ยมมาสวมใส่ได้บ่อยครั้ง และด้วยความที่สินค้าเป็นเครื่องประดับก็ย่อมมีแนวโน้มที่จะอยู่ติดตัวบุคคลได้นานกว่าสินค้าประเภทอื่นๆด้วยซ้ำ แต่ทว่าในความเป็นจริงรสนิยมด้านแฟชั่นของผู้บริโภค กลุ่มลูกค้าเป้าหมายต่างๆ ถือว่ามีความซับซ้อนและคาดเดาได้ยากกว่ารสนิยมด้านอื่นๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะออกแบบสินค้าสักชิ้นให้ถูกใจลูกค้าจำนวนมากได้
ยากต่อการสื่อสารไอเดีย อย่างที่ทราบกันว่าหนึ่งในหัวใจสำคัญของการจัดทำของพรีเมี่ยมเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยโปรโมทในแคมเปญการตลาดต่างๆ นั้น ก็คือการสื่อสารไอเดียใดๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ขององค์กร เป้าหมาย ปณิธานขององค์กร ซึ่งสินค้าอย่างเครื่องประดับนั้น หลายชิ้นถือว่ามีขนาดเล็กเกินกว่าจะเลือกใส่ข้อความ ไอเดียใดๆ ที่ต้องการสื่อสารออกไป และด้วยความที่ตัวสินค้าไม่มีประโยชน์ใช้สอยจำเป็นใดๆ ก็ยิ่งทำให้การดีไซน์จำเป็นต้องคำนึงถึงแฟชั่นเป็นหลัก นั่นจึงทำให้การจะสอดแทรกไอเดียใดๆ ลงไปเป็นเรื่องยากมากกว่าเดิม แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็อาจมีสินค้าบางชิ้นที่เป็นข้อยกเว้น ตัวอย่างเช่น ริสแบนด์สวมข้อแขน ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องประดับไม่กี่ชิ้นที่เหมาะสำหรับการใส่ตัวอักษร ข้อความใดๆ เพื่อสื่อสารไอเดียลงไป

หลายคนอาจจะเคยได้ยินกับคำว่า สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ กันมาบ้างแล้ว สินค้าเหล่านี้ เราเรียกกันอย่างง่ายๆ และยังติดปากมากที่สุดว่าสินค้าโอทอป ซึ่งสินค้าโอทอป เป็นสินค้าที่ผลิตโดยชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในของพรีเมี่ยมประจำตำบลเลยทีเดียว หรือในบางพื้นที่อาจเป็นของพรีเมี่ยมประจำจังหวัดเลยก็ได้ โดยมีการสร้าง เกิดแนวคิดการนำของโดดเด่นในพื้นที่ นำสิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่มี แล้วนำมาจัดทำเป็นรูปแบบของพรีเมี่ยม เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ หรือเพิ่มยอดขายให้ในแต่ละจังหวัด สิ่งนี้นำมาซึ่งการเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้านในชุมชน ของพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นสินค้าโอทอปเหล่านี้ยกตัวอย่างเช่น สิ่งง่ายๆอย่างถุงผ้า ร่ม ตะกร้า หรือผ้าไหมเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีของกินด้วย

และในวันนี้ เราจะยกตัวอย่าง และเอาไอเดียของสินค้าโอทอป ที่สามารถนำมาใช้ ดัดแปลงประยุกต์ และผลักดันให้เป็นของพรีเมี่ยมของแบรนด์ หรือนำมาใช้งานได้ทั่วไปได้แบบเข้ากันได้เป็นอย่างดี จะมีอะไรบ้าง สินค้าโอทอปเหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบไหน เราไปดูกันเลย

เครื่องเบญจรงค์

เครื่องเบญจรงค์นับว่าเป็นของพรีเมี่ยม หรือก็คือสินค้าโอทอปประจำจังหวัดมหาสารคาม นับว่าเป็นหนึ่งในสินค้าหัตถกรรมขึ้นชื่อของที่นี่เลยทีเดียว โดยลวดลายที่มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์แบบไทยไม่เหมือนใคร ซึ่งสินค้าหัตถกรรมขึ้นชื่อของที่นี่มีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกก็คือเครื่องเบญจรงค์อย่างที่กล่าวมานี้ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือเครื่องลายคราม ที่มีความสวยงามและน่าสนใจไม่แพ้กัน

ผลิตภัณฑ์กระจูด

ผลิตภัณฑ์กระจูดนั้น ชื่ออาจจะดูไม่คุ้นหู แต่ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสินค้าหัตถกรรมจักสาน ที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยที่ได้ชื่อผลิตภัณฑ์กระจูด เนื่องจากผลผลิตมาจากต้นกระจูด โดยเครื่องจักสานเหล่านี้ เป็นสินค้าพรีเมียม จากจังหวัดพัทลุง โดยถือว่าเป็นสินค้าโอทอปที่ติดอันดับ หนึ่งในห้าสินค้าที่มียอดส่งออกมากที่สุดในบรรดาสินค้าโอทอปทั้งหมดเลยทีเดียว

เสื้อม่อฮ่อม

เสื้อม่อฮ่อม คือสินค้าโอทอป ที่เราน่าจะได้ยินกันบ่อยๆอยู่แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสินค้าโอทอปประจำจังหวัดแพร่ เป็นสินค้าอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในตอนแรกไม่ได้ถูกพัฒนาและผลักดันให้เป็นสินค้าโอทอปประจำจังหวัด แต่ด้วยการที่ได้รับความนิยม และความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ในที่สุดเสื้อม่อฮ่อมก็ได้ถูกผลักดันเป็นสินค้าโอทอป โดยเสื้อม่อฮ่อมที่ว่านี้ เป็นเสือที่ถูกย้อมด้วยสีธรรมชาติ มีลักษณะโดดเด่นและบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของภาคเหนือ สวมใส่สบาย นิยมซื้อเป็นของฝาก

เครื่องดื่มสมุนไพร

อย่างที่บอกไปแล้วว่า สินค้าโอทอปไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องใช้ หรือข้าวของเพียงเท่านั้น แต่อาจจะเป็นของกินก็ได้ อย่างเครื่องดื่มสมุนไพร ก็นับว่าเป็นของพรีเมี่ยมประจำจังหวัดนครราชสีมา โดยตอนแรกเริ่มต้นจากการนิยมซื้อไปเป็นของฝาก และต่อมาก็ได้ถูกพัฒนามาเป็นสินค้าโอทอปประจำจังหวัดโดยนำสมุนไพรที่ขึ้นชื่อ ได้แก่น้ำตะไคร้ และน้ำอัญชันเป็นต้น

ผ้าขิตไหม

ผ้าขิตไหม คือของดี และของพรีเมี่ยมประจำจังหวัดหนองบัวลำภู โดยผ้าขิตไหม นับว่ามีลวดลายที่หลากหลาย และมีเอกลักษณ์โดดเด่น ยกตัวอย่างเช่นลายบัวบาน หลายขจรคู่ หรือไลน์มรดกไทยเป็นต้น ผ้าขิตไหม เป็นผ้าที่นำไปประกวด จนได้รับรางวัลต่างๆ กลับมาให้จังหวัดหนองบัวลำภูมากมาย ด้วยเหตุนี้ของพรีเมี่ยมชนิดนี้ จึงถูกผลักดันให้กลายเป็นสินค้าโอทอปประจำจังหวัดในเวลาอันรวดเร็ว

และนี่คือตัวอย่างของสินค้าโอทอป ที่ในที่สุดก็ถูกผลักดันไปเป็นสินค้าพรีเมี่ยม หากใครอยากได้ไอเดีย ลองนำสินค้าโอทอปเหล่านี้ไปใช้ หรือไม่ก็อาจเป็นสินค้าโอทอปจากจังหวัดอื่น แบบนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน อย่างเช่น พวงกุญแจที่ทำมาจากชาวบ้าน จังหวัดอุบลราชธานี้

ในการที่เราจะเลือกของพรีเมี่ยมมาใช้งาน ทั้งในแง่ของการหาซื้อเพื่อมาแจกจ่ายให้กับลูกค้า หรือการสั่งผลิตจากโรงงานโดยตรง เหล่านี้สามารถใช้น้ำมาส่งเสริมการขาย รวมถึงการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าความสำคัญอันดับต้นๆ ของพรีเมี่ยมเหล่านี้ คือเรื่องของคุณภาพ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ช่วยในการสร้างภาพลักษณ์ และบ่งบอกถึงมาตรฐานที่สำคัญขององค์กรเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าของพรีเมี่ยมเหล่านี้ที่เราหยิบมาใช้งาน จะเป็นของที่เต็มไปด้วยคุณภาพเพียงใด แต่หากเรามอบของเหล่านี้ ให้ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาต้องการ แน่นอนว่าของเหล่านี้ก็จะไม่ถูกหยิบมาใช้ และสุดท้ายกลยุทธ์ การเป็นของพรีเมี่ยมของเรา ก็จะไม่เกิดประโยชน์และไม่เป็นผลดีใดๆเลย

นอกจากจะไม่ช่วยในการส่งเสริมการตลาดขององค์กรแล้ว ยังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวผู้รับอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การมอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้กับกลุ่มผู้ที่ไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออาจจะใช้น้อยอย่างกลุ่มผู้สูงอายุ แบบนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นการที่ตัดสินใจ ว่าจะเลือกของพรีเมี่ยมชิ้นใด ให้กับกลุ่มเป้าหมายแบบใด จึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นในวันนี้เราจะมาคุยกัน ในเรื่องของการเลือกของพรีเมี่ยม ให้กับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม จะมีหลักการในการเลือกอย่างไร

แบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

ขั้นตอนแรก ในการเลือกของพรีเมี่ยมสำหรับแจกกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม คือการพยายามแบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีการแบ่งก็ไม่อยู่ด้วยกันมากมายหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น การแบ่งตามรายได้และกำลังซื้อ อาจจะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มเป้าหมายระดับบน และกลุ่มเป้าหมายระดับกลางจนถึงระดับล่าง หากว่ากลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของทางแบรนด์ของเรา เป็นกลุ่มเป้าหมายระดับบนซึ่งมีกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูง สามารถที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าราคาแพง ดูมีความโดดเด่นและเอกลักษณ์เป็นของตนเองได้ ของพรีเมี่ยมที่เรานำมาใช้งาน อาจจะเป็นของที่มีชิ้นเดียว อย่างพวกของแฮนด์เมด ของหายาก หรือของแบรนด์เนมอย่างนี้เป็นต้น

ในทางกลับกัน หากทางแบรนด์เน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงระดับล่าง อาจจะเลือกสินค้าที่มีประโยชน์ สามารถนำมาใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญเลยก็คือ ราคาจะต้องไม่แพงมากนัก สามารถที่จะแจกจ่ายได้ครั้งละมากๆ ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ขยายกลุ่มฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น

เลือกสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ควรเลือกสินค้า ที่ตอบสนองความต้องการด้านใดด้านหนึ่งของกลุ่มผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น ห้ากลุ่มผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายของเรา เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวในวัยเรียน ของพรีเมี่ยมที่น่าจะมีประโยชน์ และเหมาะสมมากที่สุดสำหรับผู้คนกลุ่มนี้ อาจจะเป็นกระเป๋า หรือถุงผ้าซึ่งสามารถนำมาใส่อุปกรณ์การเรียนได้ หรืออาจจะเป็น Power Bank หรือสมุดโน๊ตเป็นต้น

สินค้าพรีเมี่ยม จะต้องมีความสอดคล้องกับองค์กร

แน่นอนว่า สินค้าที่เราเลือกนำมาแจกลูกค้าของเรา อาจจะต้องมีความสอดคล้องกับองค์กร หรืออาจทำให้หวนนึกถึงองค์กรของเราขึ้นมาได้บ้าง ยกตัวอย่างเช่น หากสินค้าหลักที่เรานำมาขาย เป็นสมุดจดบันทึก ของที่เรานำมาเลือกมอบให้กับลูกค้า อาจจะเป็นของประเภทเครื่องเขียน หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวกับงานเขียน ที่สามารถใช้ควบคู่ได้กันกับสมุดโน๊ตซึ่งเป็นสินค้าหลัก หรือหากทางแบรนด์ของเรา ต้องการที่จะขาย กระบอกน้ำ สิ่งที่อาจจะเลือกมามอบให้กับลูกค้า อาจจะเลือกเป็นหลอดดูดน้ำ ที่สามารถล้างทำความสะอาดได้ หรือถุงที่สามารถหิ้วแก้วได้ไปไหนมาไหน แบบนี้เป็นต้น การเลือกของที่สอดคล้องกัน นอกจากจะทำให้ลูกค้าหยิบของของเรามาใช้งาน ของบางชนิด หากได้รับการมองเห็นมากยิ่งขึ้น ก็จะถือเป็นการช่วยโปรโมทแบรนด์ของเราไปในตัว แบบที่เราไม่ต้องลงทุนเพิ่มเลย

การที่เราจะสร้างร้านค้าหรือธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จนั้น ส่วนหนึ่งนับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากต้องยอมรับว่าในธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์ มีคู่แข่งในท้องตลาดอยู่สูงเอามากๆ สิ่งที่มีความสำคัญคือต้องเลือกช่องทางในการขาย หรือช่องทางในการจัดจำหน่ายของของเราให้มีความเหมาะสม รวมถึงเรื่องของต้นทุนในการทำการตลาดและโฆษณาอีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ของที่เราขายจำเป็นที่จะต้องมีความน่าสนใจ และตรงกับความต้องการของท้องตลาดด้วย

กลยุทธ์ทางการตลาดก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน และแน่นอนว่าที่เราจะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย คือกลยุทธ์ทางการตลาดอันยอดเยี่ยม ซึ่งไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ยังใช้ได้ผลอยู่เสมอ นั่นก็คือการมอบของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้า และเมื่อมาผนวกกับการทำธุรกิจหรือการเปิดร้านค้าออนไลน์ ของพรีเมี่ยมเหล่านี้ก็ยิ่งยอดเยี่ยมและมีศักยภาพมากขึ้นไปอีก แต่เราจะใช้ของพรีเมี่ยมของเราในการทำธุรกิจออนไลน์ร่วมด้วยอย่างไร วันนี้เราจะมาแชร์ไอเดีย สำหรับการใช้กลยุทธ์ของพรีเมี่ยมในธุรกิจออนไลน์ของเรา

เลือกของยอดนิยมและเป็นที่ต้องการของท้องตลาด

แน่นอนว่าหากเราอยากให้ของพรีเมี่ยมของเราปัง และมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์อย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ วิธีที่ง่ายที่สุดและรวดเร็วที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน นั่นก็คือเลือกของที่ได้รับความนิยมสูงในท้องตลาดอย่างเช่น ริสท์แบนด์ พวงกุญแจ และวิธีที่เราจะสังเกตได้ ก็มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูในโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ยอดนิยมสมัยนี้อย่าง TikTok หรือใน Facebook ใน Instagram ก็ถือเป็นแหล่งอ้างอิงที่ดี นอกจากนี้ยังมีอีกตัวช่วยที่เราอยากจะมานำเสนอเนื่องจากมันดีมาก นั่นคือตัวของ Google Trend คุณยังสามารถหาดูของยอดนิยมได้ในร้านค้าออนไลน์ต่างๆมากมายด้วย

ถึงจะดูของยอดนิยมแล้ว ก็อย่าลืมของเฉพาะกลุ่มด้วย

ของยอดนิยมนั้นหากเรานำมาแจกลูกค้าและทำเป็นของพรีเมี่ยม แน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่ได้ผลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นพวกกระบอกน้ำ หรือกระเป๋าผ้าลดโลกร้อน แต่ก็มีของอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน คือของที่มีความเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก ของเหล่านี้ก็จะได้ในอีกกลุ่มลูกค้าหนึ่ง ที่มีความชื่นชอบของสะสมที่มีดีไซน์สวยงามไม่เหมือนใคร หรือชอบของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพียงแต่เราเลือกแหล่งให้ดีและถูกต้อง เราก็จะได้ของที่มีราคาไม่แพงมากนัก แต่ยังแฝงไปด้วยคุณภาพและเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแน่นอนว่าของเหล่านี้มีคู่แข่งไม่มากด้วย

การดูกลยุทธ์จากคู่แข่ง

ในแง่ของการขายของออนไลน์ การเปิดร้านค้าออนไลน์ หรือการทำธุรกิจออนไลน์ต่างๆนั้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งจำนวนมาก การพยายามศึกษาและพิจารณาคู่แข่งหรือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการดูร้านค้าที่ได้รับความนิยมสูง และอาจใช้กลยุทธ์การมอบของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้าเหมือนกัน อาจจะลองศึกษาดูว่าร้านค้าเหล่านี้ใช้วิธีการอะไร มองหาของพรีเมี่ยมอย่างไร วิธีนี้จะเป็นการลดเวลาและกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี

ดูแพลตฟอร์ม ที่เราจะขายของด้วย

หากเราอยากจะใช้กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย คือเราจำเป็นที่จะต้องดูร้านค้าของเราด้วย ว่าร้านค้าของเรานั้นอยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ใด นอกจากการดูว่าเราขายในแหล่งไหน สินค้าของเราจะเป็นอะไรแล้ว เราสามารถสำรวจของที่เราจะแจกลูกค้าของเราได้ด้วย เราต้องดูว่าลูกค้าของเราอยู่ในกลุ่มอายุเท่าไหร่ แพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นมีผู้ที่ใช้งานอยู่เป็นกลุ่มคนแบบไหน ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ และอาจจะเป็นตัวชี้วัดว่าสินค้าของเราขายได้หรือไม่ได้เลยทีเดียว

เป็นที่ทราบกันดีว่าสินค้ากลุ่มเครื่องเขียนถือว่าเป็นสินค้ายอดนิยมชิ้นหนึ่งที่ถูกเลือกใช้เป็นของพรีเมี่ยมในกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการโปรโมทชื่อแบรนด์ องค์กร หรือสื่อสารแคมเปญต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลา เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีคุณสมบัติเอื้อต่อการทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการผลิตต่อชิ้นที่ค่อนข้างถูก ขนาดที่กะทัดรัด และการดีไซน์ที่ทำได้ค่อนข้างยืดหยุ่น อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงการนำสินค้ากลุ่มเครื่องเขียนมาทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดใด ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วหลายคนก็มักจะนึกถึงสินค้าอย่างปากกาเป็นลำดับแรก ๆ แทบทุกแบรนด์ ทุกองค์กรจึงล้วนเคยทำปากกาพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในแคมเปญโปรโมทแบรนด์ องค์กรมาแล้วเพราะปากกานั้นมีหลากหลายรูปแบบทั้งปากกาพลาสติก ปากกาโลหะ และอื่น ๆ อีกมากมาย ขณะที่สินค้าอื่น ๆ ในกลุ่มเครื่องเขียนอีกหลายชิ้นที่เหมาะจะเลือกนำมาใช้เป็นของพรีเมี่ยมเช่นกันกลับเป็นไอเดียที่ถูกหลงลืมไป ในบทความนี้ได้คัดเอาไอเดียการจัดเซ็ทสินค้าเครื่องเขียนทั้งการจัดเซ็ทปากกาคู่กับเครื่องเขียนชิ้นอื่น ๆ และเซ็ทเครื่องเขียนที่ไม่จำเป็นต้องมีปากกาอยู่ในเซ็ท สำหรับใช้เป็นของพรีเมี่ยมแบบกิ๊ฟเซ็ท ซึ่งมีความน่าสนใจและดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดีกว่าสินค้าพรีเมี่ยมแบบชิ้นเดี่ยวมาแนะนำให้ได้ทราบกัน
ปากกากับสมุดโน๊ต ไอเดียจัดเซ็ทเครื่องเขียนแบบแรกที่นับเป็นไอเดียมาตรฐานที่มีความเข้ากันได้ลงตัวของสินค้าสองชิ้นก็คือ ปากกากับสมุดโน๊ต หรือสมุดเลคเชอร์นั่นเอง ข้อดีของเซ็ทเครื่องเขียนมาตรฐานนี้ก็คือ เป็นของพรีเมี่ยมที่ลูกค้าเป้าหมายทุกคนนำไปใช้งานจริงได้ และมีแนวโน้มสูงที่จะใช้สินค้าทั้งสองชิ้นควบคู่กัน เพราะต่างก็เป็นสินค้าที่มีประโยชน์ใช้งานคู่กันอยู่แล้ว นอกจากนี้สินค้าอย่างสมุดโน๊ตยังค่อนข้างมีความยืดหยุ่นในการเลือกขนาดได้ตามความเหมาะสมกับลักษณะของแคมเปญ หรืองบประมาณที่มี
เซ็ทปากกาสามสี โดยทั่วไปแล้วการออกแบบและสั่งผลิตปากกาสักด้ามสำหรับใช้เป็นของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดใด ๆ นั้น มักจะเลือกสีน้ำหมึกของปากกาเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีมาตรฐานที่นิยมใช้งานกันมากที่สุด แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าในการใช้งานจริงยังมีสีมาตรฐานอีกสองสีอย่าง สีดำ และสีแดงที่ผู้ใช้งานหลายคนมีความต้องการใช้งานในการจดโน๊ต บันทึกข้อความต่างๆ เช่นกัน ดังนั้นแน่นอนว่าอีกหนึ่งไอเดียจัดเซ็ทของพรีเมี่ยมหมวดเครื่องเขียนที่เหมาะจะเลือกนำมาใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ก็คือ เซ็ทปากกาสามสีมาตรฐาน(น้ำเงิน, ดำ, แดง) นั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมทางการตลาดที่ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นวัยเรียน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายมีความต้องการใช้งานปากกาครบทั้งสามสีมาตรฐานสำหรับจดโน๊ต เลคเชอร์วิชาเรียนต่าง ๆ มากกว่ากลุ่มลูกค้าในช่วงวัยอื่น ๆ
เซ็ทสมุดโน๊ตหลากขนาด อีกหนึ่งไอเดียเซ็ทเครื่องเขียนที่เหมาะจะใช้งานเป็นของพรีเมี่ยมในแคมเปญการตลาดต่าง ๆ โดยเฉพาะแคมเปญสำหรับกลุ่มเป้าหมายวัยเรียน และหนุ่มสาววัยทำงานก็คือ เซ็ทสมุดโน๊ตหลากขนาด ซึ่งเป็นการนำสมุดโน๊ตตั้งสองขนาดขึ้นไปมาร่วมเซ็ทกันนั่นเอง ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันดีว่าการจดโน๊ต บันทึกข้อความต่าง ๆ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหลายคน แต่ความต้องการพื้นที่ในการจดโน๊ต หรือพื้นที่หน้ากระดาษก็อาจมีความแตกต่างกันไปตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น หากเป็นการเลคเชอร์วิชาเรียน ก็อาจมีความต้องการใช้งานสมุดโน๊ตขนาดใหญ่หน่อย ขณะที่การจดไอเดียงานต่าง ๆ เป็นข้อความสั้น ๆ ก็อาจต้องการเพียงแค่สมุดโน๊ตขนาดกะทัดรัดที่สามารถพกพาติดตัวได้สะดวก เป็นต้น การนำสมุดโน๊ตตั้งแต่สองขนาดขึ้นไปมารวมเซ็ทเป็นของพรีเมี่ยมจึงนับเป็นไอเดียที่น่าสนใจนำไปเลือกใช้ในแคมเปญการตลาดต่าง ๆ