Cart

BLOG | โรงงานของพรีเมี่ยม - Page 15

กระเป๋าเก็บอุณหภูมิ ไอเดียของพรีเมี่ยมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ในการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นนั้น หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่ามีสินค้าหลายประเภทให้เราได้เลือกใช้ หรือหยิบยกนำมาทดลองออกแบบ จัดวางโลโก้บริษัท ข้อความสำหรับแคมเปญต่างๆ ก่อนที่จะทำการสั่งผลิตจริง...

ในการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นนั้น หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่ามีสินค้าหลายประเภทให้เราได้เลือกใช้ หรือหยิบยกนำมาทดลองออกแบบ จัดวางโลโก้บริษัท ข้อความสำหรับแคมเปญต่างๆ ก่อนที่จะทำการสั่งผลิตจริง ซึ่งโดยทั่วไปสินค้าที่นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมกันก็มักจะเป็นสินค้าที่มีประโยชน์ใช้งานพื้นฐานทั่วไป เช่น กระบอกน้ำ แก้วน้ำ ร่ม ถุงผ้า เป็นต้น เพื่อให้ตัวสินค้าชิ้นนั้นๆมีความแมส หรือแมตช์กันได้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทหลายกลุ่ม อย่างไรก็ตามในหลายๆ กรณี บริษัท หรือองค์กรต่างๆ ก็เลือกที่จะจัดทำของพรีเมี่ยมเพื่อใช้งานสำหรับกิจกรรมทางการตลาดแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย การคิดหาไอเดียสินค้าจึงต้องมีความแตกต่างออกไปจากสินค้าที่มีความแมสดังกล่าว และในบทความนี้เองก็ได้นำเอาหนึ่งในไอเดียของพรีเมี่ยมแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่มาแนะนำกัน ซึ่งก็คือกระเป๋าเก็บอุณหภูมิแบบต่างๆ นั่นเอง

ทั้งนี้วัฒนธรรมการดื่มเครื่องดื่มเมนูต่างๆ ระหว่างวัน โดยเฉพาะกับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนทั้งเมนูร้อน และเย็นถือว่าเป็นส่วนนึงของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ไปแล้ว สังเกตได้จากคาเฟ่ ร้านกาแฟที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทุกพื้นที่ทั่วประเทศตลอดช่วงหลายปีหลังมานี้ และก็ด้วยวัฒนธรรมดังกล่าวนี้เองทำให้มีการออกแบบและผลิตไอเทมอย่างกระเป๋าเก็บอุณหูภูมิกันขึ้นมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การพกพาเครื่องดื่มเมนูร้อนย็นต่างๆ ติดตัวของคนรุ่นใหม่ ซึ่งกระเป๋าเก็บอุณหภูมิที่นิยมใช้งานกันก็มีหลายดีไซน์ หลายรูปทรงด้วยกัน และต่อไปนี้ก็เป็นไอเดียดีไซน์กระเป๋าเก็บอุณหภูมิแบบต่างๆ รูปทรงต่างๆที่เหมาะนำไปใช้เป็นแนวทางในการออกแบบเป็นของพรีเมี่ยม

กระเป๋ารูปทรงถุงผ้ามาตรฐาน สำหรับดีไซน์แรกที่เหมาะจะใช้เป็นไอเดียพื้นฐานในการออกแบบกระเป๋าอุณหภูมิเพื่อทำเป็นของพรีเมี่ยมก็คือดีไซน์แบบถุงผ้ามาตรฐานทั่วไปนั่นเอง โดยรูปทรงจะเป็นลักษณะกระเป๋าหิ้วทรงยาว แต่จะมีความแตกต่างจากถุงผ้า หรือกระเป๋าผ้าทั่วไปตรงที่มีการบุวัสดุภายในให้มีความหนา และมีคุณสมบัติช่วยเก็บรักษาอุณหภูมิ ซึ่งข้อดีของดีไซน์มาตรฐานนี้ก็คือจะมีพื้นที่จะในการใส่โลโก้ สัญลักษณ์ หรือข้อความในแคมเปญต่างๆ ที่มาก และมีความโดดเด่นสะดุดตา และด้วยรายละเอียดดีไซน์เล็กๆ น้อยของกระเป๋าประเภทนี้ที่แตกต่างจากถุงผ้า(แม้โดยรูปทรงจะเหมือนกัน) ซึ่งให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมกว่า จึงทำให้ไอเดียที่สื่อสารไปนั้นมีแนวโน้มจะได้รับการจดจำจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากยิ่งขึ้นไปอีก

กระเป๋าทรงกล่องสี่เหลี่ยม ดีไซน์อีกแบบนึงที่ถือว่าค่อนข้างที่จะทำให้รู้สึกสะดุดตาได้ง่ายเมื่อนำไปทำเป็นของพรีเมี่ยม ก็คือดีไซน์แบบกล่องสี่เหลี่ยมนั่นเอง ซึ่งดีไซน์นี้ก็นับเป็นกระเป๋าเก็บอุณหภูมิอีกแบบที่ได้รับความนิยมใช้งานจากกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกับกิจกรรมประเภทการไปท่องเที่ยว ออกกำลังกาย ซึ่งมีความต้องการพกพาเครื่องดื่มเมนูร้อน เย็นในปริมาณมาก กระเป๋ารูปทรงนี้จะตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานได้ดีกว่ากระเป๋ารูปทรงมาตรฐานทั่วไป อย่างไรตามดีไซน์แบบกล่องสี่เหลี่ยมนี้อาจจะมีข้อเสียตรงที่เมื่อจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม การจัดวางโลโก้ สัญลักษณ์ หรือข้อความตามแคมเปญการตลาดใดๆ จะทำให้ลงตัวได้ยากกว่ากระเป๋าดีไซน์มาตรฐาน เพราะพื้นที่กระเป๋าส่วนที่สะดุดกับสายตาคนมีหลายส่วนเกินไป ว่ากันง่ายๆ ก็คือเป็นงานยากที่จะทำให้ดีไซน์บนพื้นที่ส่วนใดส่วนนึงของกระเป๋าดูโดดเด่นออกมานั่นเอง ดังนั้นหากเลือกใช้ดีไซน์รูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมนี้ในการออกแบบกระเป๋าเก็บอุณหภูมิเป็นของพรีเมี่ยม ก็อาจต้องวางแผนการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้ดี และเลือกใช้เทคนิคอื่นๆ ช่วย เช่น การเน้นสี การแต่งดีไซน์บางส่วนด้วยแถบสีต่างๆ เพื่อให้พื้นที่บางส่วนของกระเป๋าดูโดดเด่นขึ้นมา

หลักการเลือกของพรีเมี่ยม ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค

ไม่ว่าจะสำหรับองค์กรหรือธุรกิจใดก็ตาม จะเป็นธุรกิจในด้านของการอุปโภคบริโภค หรือแม้แต่ธุรกิจในด้านของการให้บริการ ต่างก็จำเป็นที่จะต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับในเรื่องของการทำการตลาด ทั้งนี้ก็เพื่อสำหรับที่จะทำการส่งเสริมการขายให้กับสินค้า หรือบริการของตนเองนั้น...

ไม่ว่าจะสำหรับองค์กรหรือธุรกิจใดก็ตาม จะเป็นธุรกิจในด้านของการอุปโภคบริโภค หรือแม้แต่ธุรกิจในด้านของการให้บริการ ต่างก็จำเป็นที่จะต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับในเรื่องของการทำการตลาด ทั้งนี้ก็เพื่อสำหรับที่จะทำการส่งเสริมการขายให้กับสินค้า หรือบริการของตนเองนั้น รวมไปถึงการกระตุ้นยอดขายในทุกช่วงเวลาด้วย กลยุทธ์หนึ่งที่มักจะนำมาใช้ในการส่งเสริมการขาย เพื่อใช้ในการตลาดและสร้างการรับรู้ ให้ผู้คนรู้จักในแบรนด์ของตนเองมากยิ่งขึ้น คือการทำของแจก หรือที่เรียกว่าของพรีเมี่ยมนั้นเอง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ยังสามารถทำได้ตลอด ไม่ว่าจะในอดีตจนถึงปัจจุบัน การใช้ของพรีเมี่ยมในการทำการตลาดแบรนด์ก็เป็นอะไรที่ดี และเป็นที่นิยมอยู่เสมอ

 

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักของหลักการในการเลือกของพรีเมียมให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภค ของเหล่านี้แบบไหน เหมาะกับกลุ่มลูกค้าแบบไหน และจะมีวิธีการเลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันมากมายเหล่านี้

 

โดยปกติแล้ว กลุ่มลูกค้าจะแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า แบรนด์ของคุณตั้งใจที่จะขายลูกค้ากลุ่มไหน สินค้าหรือบริการของคุณ ต้องการที่จะให้ลูกค้ากลุ่มไหนได้ทำการใช้งาน โดยจะทำการแบ่งออกมาเป็น 2 กลุ่มหลัก กลุ่มแรกเราเรียกว่ากลุ่มผู้บริโภคระดับสูง หรือที่เราเรียกกันว่า กลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้จะมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ดังนั้นของพรีเมี่ยมที่เลือกใช้จึงจำเป็นจะต้องพิถีพิถันในการคัดเลือกเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้จะมีความชื่นชอบที่แตกต่างกันมาก วิธีการคือเราต้องเลือกอย่างดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการที่พิเศษมากที่สุด ลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่สุด แนวทางการเลือกของพรีเมี่ยมก็จะต้องแตกต่างกันออกไป

 

กลุ่มผู้บริโภคระดับสูง

 

อย่างแรกที่เราจะต้องดูเลย คือสินค้าของเราจำเป็นที่จะต้องมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร โดยที่ผู้บริโภคระดับสูงนี้ จะมีกำลังซื้อที่สูงตามไปด้วย หากชอบหรือต้องการที่จะซื้อของสิ่งไหน การที่มีกำลังซื้อสามารถตัดสินใจซื้อได้แบบไม่ลังเล ดังนั้นองค์กร ที่ต้องขยายตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ ของพรีเมี่ยมที่เลือกนำมาใช้จึงต้องเป็นของพรีเมี่ยมที่มีเอกลักษณ์และไม่ซ้ำแบบใคร เพื่อให้ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ถึงความพิเศษ

 

และที่สำคัญจะต้องดูเรื่องคุณภาพด้วย นอกจากของพรีเมี่ยมที่เลือกนำมาใช้จะต้องมีเอกลักษณ์แล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องดูในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งหากสินค้ามีคุณภาพที่ดี คนก็จะพูดไปเรื่อยๆ แบบปากต่อปาก ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการโปรโมทที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

 

อย่างสุดท้ายคือ จำเป็นที่จะต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด ของพรีเมี่ยมที่เราเรียกนำมาใช้จำเป็นที่จะต้องตอบสนองความต้องการไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามดูแปลกตา การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างง่ายดายในชีวิตประจำวัน

 

กลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง

 

แน่นอนว่า เรื่องของคุณภาพต้องเป็นข้อแรกที่ควรใส่ใจอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะในกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มไหน ในงบประมาณที่จำกัดจำเป็นต้องคำนึงถึงของพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพมากที่สุด เนื่องจากต้องทำในปริมาณที่มาก เพราะกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางนั้นเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีจำนวนมากที่สุด

 

สำคัญต่อมาคือ จำเป็นที่จะต้องนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ของที่เรานำมาแจกนี้ ส่วนใหญ่เราจะเห็น จะเป็นพวกปากกา ร่ม กระบอกน้ำ กระเป๋าผ้า หรือถุงผ้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก สามารถนำไปใช้งานได้จริงในทุกวัน

 

ต่อไปคือ ของที่นำมาแจกไม่ต้องราคาสูงนัก ไม่ใช่ในแง่ของการแจกกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง แต่เป็นในแง่ของแบรนด์หรือองค์กร เนื่องจากต้นทุนมีจำกัด และเป็นกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ ดังนั้นการคำนวณต้นทุนกับของที่นำมาใช้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

เทคนิคเซฟต้นทุนในการสั่งผลิตของพรีเมี่ยม

สำหรับองค์กรยุคใหม่ ของพรีเมี่ยม หรือสินค้าพรีเมี่ยมถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างนึง อาจเรียกได้ว่าหลายองค์กรให้ความสำคัญกับของพรีเมี่ยมไม่น้อยไปกว่าสินค้าในไลน์ผลิตของบริษัทเองเลยก็ว่าได้ เพราะการตลาด...

สำหรับองค์กรยุคใหม่ ของพรีเมี่ยม หรือสินค้าพรีเมี่ยมถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างนึง อาจเรียกได้ว่าหลายองค์กรให้ความสำคัญกับของพรีเมี่ยมไม่น้อยไปกว่าสินค้าในไลน์ผลิตของบริษัทเองเลยก็ว่าได้ เพราะการตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นมักมีการแปรผันตามชื่อเสียงแบรนด์ ภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งหากบริษัทไหนสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ตนเองได้ และสร้างการจดจำในองค์กรแก่ผู้คนจำนวนมากได้ก็มีแนวโน้มที่สินค้าและบริการของตนเองจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคตามไปด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าสินค้าพรีเมี่ยมดูจะมีความสำคัญไม่น้อยดังที่กล่าวมา แต่การทุ่มงบเพื่อจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นสำหรับใช้ในแคมเปญการตลาดต่างๆ ก็ยังถือเป็นข้อจำกัดของหลายบริษัท เพราะของพรีเมี่ยมนับเป็นสินค้าที่ทำออกมาแล้วไม่สามารถวัดคาดหวังการได้รับต้นทุนการผลิตคืนได้ เนื่องจากกิจกรรมทางการตลาดส่วนใหญ่มักเป็นลักษณะของการแจกแถม หรือมอบสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ เป็นรางวัลตอบแทนลูกค้าสำหรับการร่วมกิจกรรม ความยากอย่างนึงในการออกแบบและสั่งผลิตของพรีเมี่ยมสักชิ้น จึงเป็นการพยายามควบคุมต้นทุนให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม ในบทความนี้จึงได้นำเอาเทคนิคการลดต้นทุนในขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้หลายบริษัทสามารถสั่งผลิตสินค้าพรีเมี่ยมใดๆ เพื่อใช้ในแคมเปญการตลาดต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่าที่สุดบนงบประมาณที่สามารถควบคุมได้

เลือกใช้แบบมาตรฐานของตัวสินค้าจากโรงงานผู้ผลิต ในการหาไอเดียออกแบบของพรีเมี่ยมสักชิ้น โดยส่วนมากแล้วเรามักคิดถึงไอเดียรูปทรงที่มีความแปลกใหม่ แตกต่างจากดีไซน์สินค้ามาตรฐานทั่วไป เพราะจะช่วยทำให้หน้าตาสินค้าออกมามีความโดดเด่น แต่การพยายามครีเอทรูปทรงที่แปลกใหม่ก็มาพร้อมกับต้นทุนการสั่งผลิตสินค้าที่สูงตามไปด้วย ดังนั้นหนึ่งในวิธีเซฟต้นทุนจึงเป็นการเลือกใช้ดีไซน์รูปทรงมาตรฐานตามแบบที่ทางโรงงานผู้ผลิตมีให้เลือก และใช้เทคนิคปรับแต่งรายละเอียดดีไซน์ส่วนต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างแทนที่ส่วนของรูปทรง เช่น  การเลือกใช้สี การเพิ่มลวดลายส่วนขอบ

กำหนดจำนวนที่ต้องการใช้งานให้ชัดเจน อีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้คุมต้นทุนการสั่งผลิตของพรีเมี่ยมใดๆ ให้ชัดเจนและไม่บานปลายได้ก็คือ การกำหนดจำนวนการสั่งผลิตให้พอดีกับจำนวนลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถทราบได้จากแผนแคมเปญการตลาดนั้นๆ ที่บริษัทจัดทำขึ้น ทั้งนี้ในกรณีที่ไม่สามารถทราบจำนวนที่ชัดเจนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คาดว่าจะได้รับของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ ไปก็ไม่ควรเลือกเผื่อจำนวนการสั่งผลิตมากเกินไป เพราะโดยทั่วไปแล้วต้นทุนการสั่งผลิตของพรีเมี่ยมในจำนวนส่วนเกิน(จากที่ใช้งานจริง) มักเป็นต้นทุนสูญเปล่า กล่าวคือสินค้าชิ้นใดๆ ที่นำมาผลิตเป็นของพรีเมี่ยมมักถูกเลือก และออกแบบโดยคำนึงที่ความเหมาะสมสำหรับกิจกรรมการตลาด หรือแคมเปญตลาดครั้งนั้นๆ เท่านั้น ไม่ได้เหมาะที่จะนำไปใช้งานกับแคมเปญอื่นๆ

เลือกตัดแพ็คเกจที่ไม่จำเป็นออก ในการสั่งผลิตของพรีเมี่ยมใดๆ ในปัจจุบัน โรงงานผู้ผลิตมักมีให้เราเลือกสั่งผลิตพร้อมแพ็คเกจสินค้า ตัวอย่างเช่น หากเป็นปากกาพรีเมี่ยมก็จะมีแบบที่มาพร้อมกับกล่องใส่ปากกา  หากเป็นกระบอกน้ำพรีเมี่ยมก็จะมีแบบที่มาพร้อมกับกระเป๋าหิ้วสำหรับใส่กระบอกน้ำ แก้วน้ำ ซึ่งแม้ว่าแพ็คเกจเหล่านี้จะทำให้สินค้าดูน่าสนใจ น่าใช้งานมากขึ้น แต่เมื่อมองในแง่ความจำเป็น ความเหมาะสมกับการใช้งานสินค้าในแคมเปญต่างๆ ต้องถือว่าแพ็คเกจบางอย่างนั้นไม่ได้มีความจำเป็นซะทีเดียว อาจเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่ทำให้ต้นทุนบานซะเปล่าๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสั่งผลิตจำนวนมากๆ สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท ดังนั้นในการเลือกสั่งผลิตของพรีเมี่ยมใดๆ จึงควรตัดแพ็คเกจบางส่วนออกไปตามความเหมาะสม หรืออาจเลือกใช้งานแพ็คเกจเฉพาะในบางแคมเปญ บางกลุ่มเป้าหมาย เช่น ถุงผ้าสำหรับใส่ของพรีเมี่ยม ใช้เฉพาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มียอดการซื้อสินค้าของบริษัทถึงเป้า หรือมีการสะสมคะแนนจากการซื้อสินค้าถึงเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด เป็นต้น

ไอเดียทำของพรีเมี่ยมสำหรับกลุ่มลูกค้า Gen Z

  ในการออกแบบและจัดทำของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดสักชิ้นนั้น นักการตลาดหลายคนทราบดีอยู่แล้วว่าในขั้นตอนของการเลือกสินค้า...

ในการออกแบบและจัดทำของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดสักชิ้นนั้น นักการตลาดหลายคนทราบดีอยู่แล้วว่าในขั้นตอนของการเลือกสินค้า และดีไซน์หน้าตาสินค้าจำเป็นต้องมีการคำนึงถึงลักษณะของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพื่อให้ได้ของพรีเมี่ยมที่ออกมาถูกใจและตรงตามความต้องการใช้งานจริงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งลักษณะของกลุ่มเป้าหมายที่นิยมใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกออกแบบสินค้าก็มีหลากหลายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ  อาชีพ ไลฟ์สไตล์ หรือรสนิยมในการบริโภคสินค้า เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าเกณฑ์ดังกล่าวจะสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นหลายกลุ่มด้วยกัน และทำให้เราเข้าใจถึงความแตกต่างของลูกค้าแต่ละราย แต่ในช่วงหลายปีหลังที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ายังมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกหนึ่งกลุ่มที่มีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าที่โดดเด่น แตกต่างไปจากกลุ่มอื่นอย่างชัดเจน แม้ว่าจะไม่ได้ถูกแบ่งแยกด้วยเกณฑ์ที่หลากหลายอย่างอาชีพ ไลฟ์สไตล์  รสนิยมส่วนตัว โดยเป็นเพียงการใช้เกณฑ์ตามพื้นฐานธรรมชาติอย่างช่วงอายุเท่านั้น ซึ่งก็คือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ ผู้เกิดหลังปี 2538 เป็นต้นมานั่นเอง(อายุมากที่สุดของกลุ่มนี้คือ 27 ปี) ทั้งนี้ช่วงหลายปีหลังกลุ่ม Gen Z แสดงให้เห็นถึงลักษณะเด่นในการบริโภคที่แตกต่างไปจาก Gen อื่นๆ จนทำให้หลายแบรนด์ หลายบริษัทหันให้ความสำคัญกับการพัฒนาโปรดักส์ และการทำการตลาดเพื่อเจาะกลุ่ม Gen Z อย่างจริงจัง เช่นเดียวกับการทำของพรีเมี่ยมเพื่อใช้ในกิจกรรมทางการตลาดกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ที่ต้องมีการเลือกตัวสินค้า และดีไซน์ที่เฉพาะกลุ่มจริงๆ เพื่อให้กลุ่มลูกค้ามีความต้องการใช้งานสินค้าจริง และเกิดความประทับใจในตัวสินค้านั้นๆ ซึ่งในบทความนี้เองก็ได้นำเอาไอเดียการออกแบบและจัดทำของพรีเมี่ยมแบบต่างๆ ที่แมตช์กับกลุ่มเป้าหมาย Gen Z มาแนะนำกัน

ของพรีเมี่ยมที่ใช้ได้กับกิจกรรมการเรียน อย่างที่ทราบกันว่ากลุ่ม Gen Z คือกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 27 ปีลงมา ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วกลุ่มลูกค้าเหล่านี้จึงเป็นกลุ่มที่ยังอยู่ในช่วงวัยเรียน ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย มัธยม และมีบางส่วนที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นทำงาน หรือกลุ่มเด็กจบใหม่นั่นเอง ของพรีเมี่ยมที่ลูกค้ากลุ่มมีโอกาสนำไปใช้งานจริงสูง จึงเป็นสินค้าประเภทที่มีประโยชน์ใช้งานเกี่ยวกับกิจกรรมในการเรียนต่างๆ เช่น ปากกาเลคเชอร์แบบต่าง ปากกาไฮท์ไลท์หรือปากกาเน้นข้อความ สมุดโน๊ต และ แฟลชไดร์ฟที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูล เป็นต้น

Gen Z ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้ามาเป็นอันดับแรก  ลักษณะเด่นที่ชัดเจนอีกอย่างนึงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่ Gen Z ก็คือการให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพ เนื่องจากยุคของคน Gen ก่อนๆ เป็นยุคเริ่มต้นของธุรกิจที่อาศัยการขับเคลื่อนด้วยเทคนิคทางการตลาด จึงทำให้หลายคนซึมซับวัฒนธรรมการเลือกบริโภคสินค้าด้วยเกณฑ์ที่หลากหลายทั้งเรื่องดีไซน์ พรีเซนเตอร์ ชื่อเสียงแบรนด์ เป็นต้น แต่สำหรับคน Gen Z พวกเขาโตมาพร้อมกับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย จึงมีความอ่อนไหวต่อกลยุทธ์ทางการตลาดน้อย และเลือกให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าที่ส่งผลต่อประสบการณ์บริโภค หรือใช้งานจริงมากกว่า ว่ากันง่ายๆก็คือสินค้าที่จะสร้างความประทับใจให้กับกลุ่ม Gen Z ได้ก็คือสินค้าที่มีคุณภาพดีเกินมาตรฐานเฉลี่ยของสินค้าประเภทเดียวกันที่มีอยู่ในตลาด การออกแบบและจัดทำของพรีเมี่ยมเพื่อใช้ในกิจกรรมทางการตลาดใดๆ สำหรับกลุ่มเป้าหมาย Gen Z นั้นจึงควรใส่ใจเรื่องคุณภาพเป็นพิเศษ ในขั้นตอนของการเลือกวัสดุการผลิต ซึ่งโรงงานผู้ผลิตของพรีเมี่ยมจะให้เราเลือกเกรดวัสดุที่ใช้ในการผลิต จึงอาจต้องยอมจ่ายแพงหน่อยเพื่อเลือกใช้วัสดุเกรดบนๆ ในการผลิตของพรีเมี่ยมนั้นๆ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการเลือกวัสดุเกรดรองลงมาอาจเพียงพอต่อการผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพพอดีต่อการใช้งานแล้วก็ตาม แต่ทั้งนั้นทั้งนี้การเลือกเกรดวัสดุก็ควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับงบประมาณที่มีร่วมด้วย เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพดีและคุ้มค่ากับงบประมาณที่มีมากที่สุดด้วย

เหตุใด เราจึงควรสั่งของพรีเมี่ยมจากบริษัทผลิตของพรีเมี่ยมโดยเฉพาะ

กลยุทธ์หนึ่งที่หลายบริษัท หรือหลายแบรนด์เลือกใช้ เพื่อทำการโปรโมทแบรนด์ และต้องการให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น คือการมอบของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้า แต่วิธีในการจัดหาของพรีเมี่ยมนั้น ทางหลายแบรนด์ก็เลือกที่จะวางกลยุทธ์ด้วยตนเอง และเลือกที่จะจัดหาสินค้า...

กลยุทธ์หนึ่งที่หลายบริษัท หรือหลายแบรนด์เลือกใช้ เพื่อทำการโปรโมทแบรนด์ และต้องการให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น คือการมอบของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ถุงผ้า สมุดโน้ต พวงกุญแจ ปากกา หรือ ร่ม แต่วิธีในการจัดหาของพรีเมี่ยมนั้น ทางหลายแบรนด์ก็เลือกที่จะวางกลยุทธ์ด้วยตนเอง และเลือกที่จะจัดหาสินค้า หรือของพรีเมี่ยมเหล่านั้นด้วยตนเอง แต่ในปัจจุบัน ก็ได้มีบริษัทที่รับผลิตของพรีเมี่ยม ที่ให้บริการ ทั้งการผลิตของ และการออกแบบโดยเฉพาะ แต่ละบริษัทก็จะมีบริการที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงคุณภาพ และราคาของสินค้าก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย

 

การเลือกใช้บริษัทผลิตของพรีเมี่ยมนั้น เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างเหมาะสม และวันนี้เราจะมาคุยกัน ว่าเหตุใด เราจึงควรสั่งของพรีเมี่ยม จากบริษัทที่รับผลิตของพรีเมี่ยมโดยเฉพาะ โดยที่เราไม่ต้องไปเหนื่อยเลือกเอง และว่ากันด้วยเรื่องของข้อดีของบริษัทของพรีเมี่ยมเหล่านี้ด้วย

 

ได้ราคาที่ดีกว่า

 

แน่นอนว่า บริษัทผลิตของเหล่านี้ เรียกได้ว่าอยู่วงใน และคลุกคลีกับของเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การที่เราสั่งของจากบริษัทรับผลิตเหล่านี้ จึงทำให้เราได้ของที่มีราคา และมีต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำกว่าการที่เราซื้อในราคาขายปลีกเสียอีก กลับกันหากเราไปซื้อร้านขายสินค้าทั่วไป นอกจากที่เราจะได้ราคาที่ค่อนข้างสูง เท่ากับราคาสินค้าขายปลีกทั่วไปแล้ว เรายังต้องมานั่งกังวล และดูเรื่องของคุณภาพด้วยตนเอง แน่นอนว่าหากเราได้ราคาที่ถูกลง ก็จะเป็นการประหยัดต้นทุนการผลิตของเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

ไม่ต้องเหนื่อยเอง ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากออกไป

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเราต้องจัดหาของแจกลูกค้าจำนวนมาก การสั่งสินค้าจากบริษัทเหล่านี้ จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก และมีความซับซ้อนมากออกไปเลย ดีกว่าที่เราจะต้องมานั่งหาเอง การที่เรามานั่งหาเองนั้นจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากตามมาด้วย เราอาจต้องเจอกับปัญหาสินค้ามากมาย ทั้งเรื่องของคุณภาพที่เราจะต้องดู ปริมาณของสินค้าที่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรา หรือเรื่องของระยะเวลาที่เราต้องเสีย เพื่อที่จะเดินทางไปซื้อของด้วยตนเอง

 

สามารถออกแบบได้ด้วยตัวเอง

 

ข้อดีของบริษัทที่รับผลิตของเหล่านี้ก็คือ เนื่องจากบริษัท ทั้งทำหน้าที่ในการจัดหา และทำหน้าที่ในการผลิตสินค้าเหล่านั้นด้วยตนเอง ดังนั้นแน่นอนว่า บริษัททำการจัดหาและผลิตสินค้าด้วยตนเอง เราผู้เป็นผู้ใช้บริการ จึงสามารถที่จะออกแบบสินค้านั้นด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้ก็ทำให้เราได้ของที่ต้องการ และเหมาะสมกับธุรกิจของเราจริง

 

สามารถที่จะใส่ลูกเล่น สกรีนโลโก้ หรือชื่อแบรนด์ลงไปได้

 

แน่นอนว่า หากเราใช้บริการจากบริษัท หรือโรงงานที่รับผลิตสินค้าเหล่านี้โดยเฉพาะ เราจะสามารถทำการสกรีนโลโก้ ตราของบริษัท หรือชื่อแบรนด์ลงไปบนสินค้าของเราได้อย่างง่ายดาย ทำให้สินค้าเหล่านี้อยู่ภายใต้แบรนด์ของเราอย่างถูกต้อง โดยหากเราทำการจัดหาสินค้าเหล่านี้เอง หากเราต้องการนำสินค้าเหล่านั้นไปสกรีนอีก เราอาจจะต้องเสียเงินเพิ่ม และต้องหาบริษัท หรือร้านที่รับสกรีนอีกที การใช้บริการของบริษัทรับผลิตของเหล่านี้ ทำให้เราสามารถทำงานได้ครบและจบในที่เดียว

 

ควบคุมงบประมาณได้

 

หลายคนต้องการให้คำที่เรียกว่าพรีเมี่ยมนั้น เป็นสินค้าพรีเมี่ยมจริงๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว หลายบริษัทหรือหลายแบรนด์ ก็มีงบประมาณในส่วนนี้ที่จำกัดอยู่ การที่เราเลือกใช้บริการจากบริษัทรับผลิตของ เราสามารถที่จะควบคุมงบประมาณได้อย่างง่ายดาย บริษัทจะทำการจัดหาสินค้า ที่เหมาะสมและพอดีกับงบประมาณที่เราตั้งไว้ ดังนั้นเรื่องของงบประมาณเราจึงมั่นใจได้ว่า มันจะไม่มีการบานปลายอย่างแน่นอน

ขั้นตอน และข้อควรระวังต่างๆในการออกแบบและจัดทำของพรีเมี่ยมสำหรับมือใหม่

ในการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นนั้น หลายคนย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นการจัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการตลาด หรือใช้เป็นตัวช่วยในการโปรโมทบริษัท องค์กรให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยอาศัยพื้นที่บนของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ ในการสกรีน พิมพ์ข้อความ ลวดลายใดๆ ที่สื่อถึงองค์กรของเราลงไป...

ในการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นนั้น หลายคนย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นการจัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการตลาด หรือใช้เป็นตัวช่วยในการโปรโมทบริษัท องค์กรให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยอาศัยพื้นที่บนของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ ในการสกรีน พิมพ์ข้อความ ลวดลายใดๆ ที่สื่อถึงองค์กรของเราลงไป เช่น ถุงผ้าพรีเมี่ยม ที่มีโลโก้บริษัทแห่งหนึ่ง ใช้เพื่อแจกลูกค้า ทว่าในขั้นตอนของการจัดทำ และผลิตสินค้าพรีเมี่ยมจริงๆ นั้นสำหรับบริษัท องค์กรที่ยังไม่เคยผ่านประสบการณ์จัดทำสินค้าพรีเมี่ยมใดๆมาก่อนอาจจะยังไม่เข้าใจในขั้นตอนต่างๆ ทั้งในส่วนของการออกแบบ และการติดต่อโรงงานเพื่อสั่งผลิต ซึ่งถือว่ามีความแตกต่างไปจากการผลิตสินค้าใดๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท หรืออยู่ในไลน์การผลิตของบริษัทเราเอง ในบทความนี้จึงได้นำเอาขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การคิดไอเดียสินค้า ออกแบบ และสั่งผลิตมาอธิบายให้มือใหม่หัดทำของพรีเมี่ยมให้ได้ทราบกัน

เลือกว่าจะออกแบบ หรือใช้บริการรับออกแบบจากผู้ผลิตสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ หนึ่งในขั้นตอนที่ถือได้ว่ายากที่สุดในการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นก็คือ ขั้นตอนการออกแบบนั่นเอง เพราะโดยทั่วไปแล้วสินค้าที่นำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมมักไม่ใช่สินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการจัดจำหน่ายของบริษัทเราเอง ความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของตัวสินค้านั้นๆ จึงอาจมีไม่มากนัก ดังนั้นขั้นตอนแรกในการเตรียมพร้อมสำหรับจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นจึงเป็นการเลือกตัดสินใจให้ชัดเจนว่าจะออกแบบสินค้านั้นๆ เอง หรือจะเลือกใช้บริการรับออกแบบโดยโรงงานผู้ผลิต ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าดีกว่า โดยหากเลือกออกแบบเองก็ควรมีไอเดียที่ชัดเจนอยู่แล้ว และมั่นใจได้ว่าไอเดียออกแบบนั้นๆ สามารถแมตช์กันได้กับตัวสินค้า เช่น โครงการบ้านเดี่ยว มักจะนิยมทำร่มแจกโดยมีการสกรีนโลโก้ลงบนร่มด้วย เพื่อให้เป็นที่จดจำและเป็นการโปรโมทโครงการไปในตัวเมื่อนำร่มไปใช้กางที่อื่นๆ

เลือกโรงงานผู้ผลิตโดยเปรียบเทียบจากผลงาน  ตัวอย่างสินค้า อีกขั้นตอนที่ถือว่าค่อนข้างมีผลต่อหน้าตาและคุณภาพสินค้าที่ออกมามากก็คือ การตัดสินใจเลือกโรงงานผู้ผลิตนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานรับผลิตของพรีเมี่ยมอยู่มากมายทั่วประเทศ แต่ความสวยงามและสเปคสินค้าที่ผลิตออกมามีความแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงความปลอดภัยของตัวสินค้า เช่น Power Bank ต้องมี มอก.ก่อนการตัดสินใจสั่งผลิตกับโรงงานใด เราจึงควรทำการเปรียบเทียบจากผลงานการผลิตที่ผ่านๆมา  หรือเปรียบเทียบจากตัวอย่างสินค้าที่แต่ละโรงงานมีให้ดู เพื่อที่จะเลือกคุณภาพการผลิตที่ตรงตามความต้องการของเราได้มากที่สุด นอกจากนี้ก็ยังอาจเปรียบเทียบเรื่องของเรทราคา ความคุ้มค่าตามออเดอร์ที่ต้องการร่วมด้วย เพราะปัจจุบันก็มีหลายโรงงานที่แม้ว่าจะใช้วัสดุเหมือนกัน และมีคุณภาพการผลิตที่ไม่แตกต่างกัน แต่กลับตั้งเรทราคาต่างกัน ซึ่งหากยอมเสียเวลาเพิ่มสักหน่อยเพื่อทำการเปรียบเทียบราคา ก็จะทำให้จัดทำของพรีเมี่ยมได้ในเรทราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น

ตรวจเช็คสินค้าจริง อีกขั้นตอนที่ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยเช่นกันก็คือ การตรวจเช็คสินค้าจริงที่ทางโรงงานผลิตออกมา เพื่อดูว่าของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ ถูกผลิตออกมาได้ถูกต้องตรงตามที่ออกแบบไว้ และมีสเปคตามที่ได้ตกลงไว้หรือไม่ โดยในส่วนขั้นตอนนี้เพื่อป้องกันความเสียหายจากการที่โรงงานเดินไลน์ผลิตตามออเดอร์ไปแล้ว เราอาจต้องใส่ใจรายละเอียดในขั้นตอนการตรวจเช็คสเปคก่อนการผลิตกับทางโรงงานให้ดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของวัสดุ สี รูปทรง ลวดลาย ข้อความที่ออกแบบไว้สำหรับพิมพ์ลงบนสินค้า ซึ่งหากมีการตรวจเช็คอย่างดีแล้วก็จะเป็นการช่วยป้องกันความเสียหายจากความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตให้กับทั้งผู้สั่งผลิตและโรงงานผู้ผลิตได้ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วโรงงานผู้รับผลิตของพรีเมี่ยมที่ได้มาตรฐานมักมีบริการในส่วนขั้นตอนการตรวจเช็คก่อนการผลิตตามมาตรฐานของตนเองอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น บางโรงงานอาจมีสรุปสเปคสินค้าชิ้นนั้นๆ ให้ลูกค้าทำการตรวจทานก่อนคอนเฟิร์มการเดินไลน์ผลิต เป็นต้น ดังนั้นแม้จะดูเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความละเอียดในการตรวจเช็ค แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนจนน่าเป็นกังวลสักเท่าไหร่นัก

กลยุทธ์การเลือก “ของพรีเมี่ยม” ให้ดู “พรีเมี่ยม”

หลายครั้ง ที่กลยุทธ์การใช้ของพรีเมี่ยมนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม ที่ใช้สำหรับการโปรโมตแบรนด์ หรือโปรโมทสินค้าในช่วงนั้นๆ เนื่องจากการใช้ของพรีเมี่ยมนี้ เป็นสิ่งที่จะสามารถสร้างการมองเห็นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการทำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์นั้นๆ ได้ผ่านของเหล่านี้ด้วย...

หลายครั้ง ที่กลยุทธ์การใช้ของพรีเมี่ยมนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม ที่ใช้สำหรับการโปรโมตแบรนด์ หรือโปรโมทสินค้าในช่วงนั้นๆ เนื่องจากการใช้ของพรีเมี่ยมนี้ เป็นสิ่งที่จะสามารถสร้างการมองเห็นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการทำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์นั้นๆ ได้ผ่านของเหล่านี้ด้วย ของพรีเมี่ยมยังสามารถบ่งบอกถึงลักษณะของแบรนด์ เราอยากให้แบรนด์ของเราถูกมองแบบไหน ของเหล่านี้สามารถที่จะเป็นตัวกำหนดการที่ผู้คนมองแบรนด์ของเราได้

 

หลายแบรนด์ อยากที่จะให้ของพรีเมี่ยม สามารถที่จะแสดงออก และบ่งบอกถึงความพรีเมี่ยมได้จริง แต่จะทำอย่างไร ให้การมอบสินค้าพรีเมี่ยม หรือของพรีเมี่ยมเหล่านี้ ออกมาให้ดูพรีเมี่ยมจริง และวันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ กลยุทธ์การเลือกของพรีเมี่ยมอย่างไร เพื่อที่จะทำให้แบรนด์ หรือของที่เราต้องการมอบให้กับลูกค้านั้น ดูพรีเมี่ยมจริงๆ

 

จัดเป็นเซต เพิ่มความพรีเมี่ยม

 

วิธีการแรกที่อยากจะมาแนะนำ คืออยากให้ลองจัดเป็นเซตดู เนื่องจากการจัดของเป็นเซตนั้น เราสามารถที่จะเพิ่มลูกเล่น หรือมีการใส่กิมมิคเพิ่มเติมได้หลากหลายรูปแบบ บางทีอาจจะเป็นที่ตัวสินค้า หรือของพรีเมี่ยมที่เราต้องการมอบให้ลูกค้า อาจจะเลือกเป็นเซตครีมบำรุงผิว หรือ เซตของใช้ทั่วไป  เช่น จัดเป็นเซตกระบอกน้ำ กับ ถุงผ้า ที่ดูมีความพรีเมี่ยมขึ้นมา นอกจากจะสามารถเพิ่มลูกเล่นได้ในตัวสินค้าแล้ว ยังสามารถเพิ่มลูกเล่นได้ในตัวบรรจุภัณฑ์ด้วย อาจจะเลือกใช้สี หรือกล่องให้ดูมีความพรีเมียมมากขึ้นก็น่าจะดีไม่น้อย

 

ของเล็กๆ ชิ้นเดียว ก็ทำให้พรีเมี่ยมได้

 

อันนี้จะต่างจากวิธีการแรกโดยสิ้นเชิง แน่นอนว่าการจัดเป็นเซต อาจทำให้ของที่เรามอบให้ดูพรีเมี่ยมได้ไม่ยาก แต่บางทีการเลือกของชิ้นเล็กชิ้นเดียว มาใช้ในการโปรโมทแบรนด์ หรือนำมามอบให้กับลูกค้าเลยโดยตรง ก็อาจทำได้เหมือนกัน แต่การเลือกของนั้นจำเป็นต้องเลือกอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจจะเลือกเป็นเครื่องประดับ หรือของใช้ชิ้นเล็กๆ ซึ่งมีความพรีเมี่ยมในตัวเองอยู่แล้ว อันนี้ก็น่าจะดีเหมือนกัน เช่น สมุดโน้ตสกรีนโลโก้ ปากกาโลหะสลักชื่อหรือโลโก้ เพิ่มความพรีเมี่ยมได้ลงตัว

 

ดูตัวอย่างแบรนด์อื่น

 

วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด คือการให้เรา ไปดูตัวอย่างของจากแบรนด์อื่นๆ ที่เรารู้สึกว่าดูมีความพรีเมี่ยมอยู่ หรือไม่ก็ให้ดูจากบรรดาพรีเมี่ยมแบรนด์เลย ซึ่งเหล่านี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีเป็นอย่างมาก แต่หากเราจะทำการลอกเลียน หรือทำแบบเขาแล้ว เราก็ต้องแน่ใจว่า เราจะทำออกมามีคุณภาพได้ด้วย ถึงแม้ว่า ของที่เราจะมามอบให้อาจมีราคาไม่สูงเท่า แต่อย่างน้อยคุณภาพก็ต้องได้อยู่ในระดับหนึ่ง

 

เลือกของที่บ่งบอกถึงแบรนด์ได้

 

กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ใช่แค่เลือกให้ดูมีความพรีเมี่ยมเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ควรทำเลยเป็นอย่างยิ่ง หากต้องการจะมอบสินค้าพรีเมี่ยมเหล่านี้ให้กับลูกค้า คือต้องบ่งบอกถึงความเป็นแบรนด์ของเราได้อย่างชัดเจน นอกจากจะเลือกบ่งบอกความเป็นแบรนด์ของเราได้อย่างชัดเจนแล้ว แบรนด์ของเราก็จะดูมีความพรีเมียมมากขึ้นไปในตัวด้วย การเลือกของแจกลูกค้าให้เข้ากับแบรนด์ ไม่ว่ายังไงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และลูกค้าก็น่าจะเห็นได้ไม่ยาก

 

เลือกบริษัทผลิตของพรีเมี่ยมที่ตรงใจ

 

สุดท้ายแล้ว การจัดหาของด้วยตนเองอาจจะเกิดความยุ่งยาก อีกวิธีหนึ่งที่จะตัดปัญหาเหล่านี้ไปเลย คือการเลือกบริษัทรับผลิตของพรีเมี่ยม ให้นาทีนี้เป็นหน้าที่ของบริษัทเหล่านี้ไปเลย บริษัทจะสอบถามถึงความต้องการของเรา เพื่อที่จะจัดการ และผลิตของ หรือฮาของเหล่านี้มาให้เราได้อย่างตรงใจ ยิ่งของที่มีความเป็นพรีเมี่ยมอยู่ บริษัทเหล่านี้น่าจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า ดังนั้น การใช้บริการจากบริษัทผลิตของเหล่านี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ค่อนข้างมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ประโยชน์ของการใช้ของพรีเมี่ยมสร้างการรับรู้ในแบรนด์

การที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ หรือการขายสินค้าและบริการต่างๆนั้น ไม่ใช่แค่เพียงการวัดแค่ยอดขายเพียงอย่างเดียวได้เท่านั้น แต่ยังจำเป็นที่จะต้องมีปัจจัยหนึ่งที่ค่อนข้างมีความสำคัญกับธุรกิจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ การที่ผู้คนสามารถรับรู้ถึงแบรนด์สินค้าได้ กลับกันแล้ว...

การที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ หรือการขายสินค้าและบริการต่างๆนั้น ไม่ใช่แค่เพียงการวัดแค่ยอดขายเพียงอย่างเดียวได้เท่านั้น แต่ยังจำเป็นที่จะต้องมีปัจจัยหนึ่งที่ค่อนข้างมีความสำคัญกับธุรกิจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ การที่ผู้คนสามารถรับรู้ถึงแบรนด์สินค้าได้ กลับกันแล้ว การที่สามารถทำยอดขายได้จำนวนมาก ก็ไม่ได้เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ผู้บริโภคสามารถที่จะจดจำชื่อ รู้จักแบรนด์ของเราจริงๆ อาจจะเป็นลูกค้าที่แวะเวียนผ่านไปผ่านมาก็เป็นได้

 

การใช้ของพรีเมี่ยม เช่น ถุงผ้า ร่ม หรือกระบอกน้้ำ ในการโปรโมตแบรนด์ หรือสร้างการรับรู้ในแบรนด์นั้นเป็นสิ่งที่ดี และเป็นสิ่งที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากผู้คนใช้ของพรีเมี่ยมในการสมนาคุณลูกค้า และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า ที่ไว้ใจและใช้สินค้าของแบรนด์นั้นๆแล้ว รวมถึงอาจนำมาแจกพนักงาน เพื่อเป็นการขอบคุณที่ทำงานเพื่อองค์กรมาอย่างหนัก ของพรีเมี่ยมยังมีประโยชน์ในด้านการสร้างการรับรู้ในแบรนด์อีกด้วย ดังนั้นวันนี้ เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของ ประโยชน์ของการใช้ของพรีเมี่ยม ในการสร้างการรับรู้แบรนด์ ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง เผื่อจะเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเพื่อคุณจะได้ใช้ของพรีเมี่ยมเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในด้านนี้

 

สร้างความภักดีในแบรนด์

 

การใช้ของพรีเมี่ยมเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์นั้น เมื่อลูกค้าสามารถที่จะจดจำแบรนด์ได้แล้ว จะสามารถที่จะสร้างความภักดีในแบรนด์ได้อย่างง่ายขึ้น และตรงนี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก จะเป็นการรักษาลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าอยู่กับเราและใช้บริการของเราอย่างยาวนาน เรียกว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในระยะยาว โดยนอกจากการให้ของพรีเมี่ยมแล้ว ยังสามารถทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย อย่างเช่นการจัดโปรโมชั่น หรือการส่งอีเมล ข่าวสารให้กับลูกค้า หรือแม้แต่การสอบถามความพึงพอใจก็ใช้ได้เหมือนกัน

 

การใช้ของพรีเมี่ยม สามารถทำให้เป็นที่หนึ่งในดวงใจของผู้ใช้ได้

 

การมอบของเล็กๆน้อยๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์นี้ จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และทำให้เราเป็นหนึ่งตัวเลือก หรืออาจเป็นตัวเลือกเดียวหากลูกค้าต้องการที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการนั้นๆ ตรงนี้จะคล้ายกับความภักดีในแบรนด์ แต่หากเป็นความภักดีในแบรนด์ ยังเป็นไปได้ที่ลูกค้าอาจจะเลือกใช้บริการอื่นบ้าง แต่หากบริการของเรา มีการตระหนักรู้อย่างจริงจัง ก็สามารถที่จะทำให้ลูกค้าใช้บริการของเราเพียงเจ้าเดียว ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับแบรนด์ของเราอย่างมาก

 

สามารถขยายภาพจำของสินค้าได้

 

การมอบของเหล่านี้ให้กับลูกค้านั้น สามารถที่จะสร้างการรับรู้ได้มากขึ้น ลูกค้าจะเห็นโลโก้ แพคเกจจิ้ง รูปร่างของสินค้า รวมถึงชื่อแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ผ่านของพรีเมี่ยมอย่างเช่น การสกรีนโลโก้แบรนด์ลงบนกระบอกน้ำ เพื่อนให้ลูกค้านำไปใช้ นอกจากลูกค้าเก่าจะเห็นแล้ว ลูกค้าที่อาจไม่เคยเห็นและใช้บริการของเรา ก็อาจจะมองเห็นด้วย สิ่งนี้เป็นการโปรโมทอย่างไม่ต้องลงทุนมากนัก เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวเลยทีเดียว

 

ทำให้สามารถโปรโมทสินค้าใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น

 

เมื่อแบรนด์ของเรามีความแข็งแรงแล้วในระดับหนึ่ง การขยายธุรกิจต่อไป หรือการเพิ่มสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ของเราก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วย เมื่อผู้บริโภครู้จักแบรนด์ของเราแล้ว อีกทั้งเรามีกลุ่มลูกค้าที่ตรงกับแบรนด์ของเรา เหล่านี้เอื้อกับการวางกลยุทธ์การตลาดสำหรับสินค้าใหม่เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อาจใช้ของพรีเมี่ยมในการแนบไปกับสินค้าใหม่ก็ได้

 

ทำให้มีคุณค่าของแบรนด์เกิดขึ้น

 

คำนี้เป็นคำสำคัญเป็นอย่างมาก การมอบของเหล่านี้ให้กับลูกค้า สามารถที่จะสร้างการจดจำในแบรนด์ใด และก็จะนำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า คุณค่าของแบรนด์ นั่นคือการที่แบรนด์มีความแข็งแรง มีชื่อเสียง และมีการรับรู้ที่สูง ช่วยเสริมให้แบรนด์มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเก่าด้วย

รวมไอเดียกิจกรรมทางการตลาด สำหรับแจกของพรีเมี่ยม

หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าวัตถุประสงค์หลักในการจัดทำของพรีเมี่ยมขึ้นสักชิ้นนั้นก็เพื่อ สร้างการจดจำ หรือกระตุ้นให้เกิดความรู้จัก สนใจในตัวองค์กร หรือบริษัทเราโดยผ่านเครื่องมือที่เป็นรูปธรรม ซึ่งก็คือตัวสินค้านั้นๆ ที่มีการสกรีนโลโก้องค์กร ชื่อบริษัท หรือสัญลักษณ์ใดๆ...

หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าวัตถุประสงค์หลักในการจัดทำของพรีเมี่ยมขึ้นสักชิ้นนั้นก็เพื่อ สร้างการจดจำ หรือกระตุ้นให้เกิดความรู้จัก สนใจในตัวองค์กร หรือบริษัทเราโดยผ่านเครื่องมือที่เป็นรูปธรรม ซึ่งก็คือตัวสินค้านั้นๆ ที่มีการสกรีนโลโก้องค์กร ชื่อบริษัท หรือสัญลักษณ์ใดๆ ที่สื่อกับองค์กรเราได้ อย่างไรก็ตามด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าวที่ทุกบริษัท ทุกองค์กรเข้าใจตรงกันอยู่แล้ว หลายคนจึงมักเลือกวิธีง่ายๆ ในขั้นตอนของกิจกรรมทางการตลาดที่จัดขึ้นเพื่อแจกของพรีเมี่ยมใดๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยการแจกของให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเฉยๆ โดยไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดร่วมกันระหว่างองค์กร กับลูกค้านอกจากการให้ และรับของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆ ซึ่งในความเป็นจริง แม้ว่ากลุ่มลูกค้าที่ได้รับของ หรือสินค้าพรีเมี่ยมนั้นๆไปจะได้เห็นข้อความ โลโก้ หรือสัญลักษณ์ใดๆ ที่องค์กรต้องการสื่อสารให้รับรู้ แต่ด้วยความที่องค์กรและกลุ่มลูกค้าขาดการปฏิสัมพันธ์กันที่มากพอก่อนที่จะเกิดการให้และรับของพรีเมี่ยมนั้นๆ อาจทำให้ผลลัพธ์ในการสร้างการรับรู้ จดจำในตัวองค์กรออกมาไม่มีประสิทธิภาพพอ หรือว่ากันง่ายๆ ก็คือเมื่อไม่มีกิจกรรมที่เชื่องโยงกันระหว่างองค์กร และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มากเพียงพอ กลุ่มลูกค้าก็มีแนวโน้มที่จะไม่รู้สึกผูกพัน หรือจดจำองค์กรได้ดีเท่าไหร่ ในบทความนี้จึงได้เลือกนำเอาไอเดียกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ที่เหมาะสำหรับใช้ในขั้นตอนการแจกสินค้าพรีเมี่ยมให้กับกลุ่มลูกค้ามาแนะนำกัน

สะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัล วิธีนึงที่ต้องบอกว่าเป็นกิจกรรมยอดฮิตที่ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มลูกค้ากับองค์กรได้ดี และเป็นระยะเวลายาวนานด้วยก็คือ การจัดกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของพรีเมี่ยมนั่นเอง และของพรีเมี่ยมก็ต้องมีความสำคัญด้วย เช่นของที่จะเลือกมาใช้ ต้องมีความเหมาะสมกับธุรกิจของเราด้วย แต่ของที่ถูกหยิบมาใช้บ่อยๆเกือบธุรกิจ ก็จะมีถุงผ้า สมุดโน้ต ปาก เป็นต้น โดยกำหนดให้ลูกค้าสะสมคะแนนให้ครบตามจำนวนเพื่อแลกรับรางวัล ซึ่งกิจกรรมที่ทำให้ได้รับคะแนนอาจมาจากหลากหลายกิจกรรม ตามความเหมาะสม เช่น กิจกรรมพื้นฐานอย่างการซื้อสินค้าของบริษัท หรืออาจเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดความรู้จัก สนใจในองค์กรมากขึ้นอย่างการตอบคำถาม ทั้งนี้การใช้ระบบสะสมคะแนนในขั้นตอนก่อนการมอบของพรีเมี่ยมใดๆ ให้กับลูกค้าย่อมทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากมีส่วนร่วมกับกิจกรรมขององค์กร และเกิดความพยายามในการสะสมคะแนนให้ครบตามภารกิจ จนนำมาซึ่งการทำความรู้จัก และสนใจในตัวองค์กรโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้จดจำองค์กร หรือบริษัทได้ดีมากขึ้นตามไปด้วย

กิจกรรมให้ข้อเสนอแนะ คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ หนึ่งในสิ่งที่ต้องบอกว่าค่อนข้างเป็นประโยชน์มากหากได้รับมาจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรงก็คือ ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำในการปรับปรุงสินค้า บริการในอนาคตของบริษัทนั่นเอง ดังนั้นในการแจกของพรีเมี่ยมใดๆ ให้กับลูกค้าจึงอาจใช้กิจกรรมให้ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำให้การปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นเงื่อนไขในการแลกรับของพรีเมี่ยมนั้นๆ วิธีนี้นอกจากจะเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์กร กับลูกค้าแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อการใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อสร้างสินค้า บริการใหม่ๆ ขององค์กรในอนาคตที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้นด้วย

ให้ลูกค้าร่วมกิจกรรมผ่านสื่อโซเชียลเพื่อแลกรับของพรีเมี่ยม เช่น กระบอกน้ำ แฟลชไดฟร์ หรือ ร่ม เป็นต้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้ หนึ่งในช่องทางการตลาดที่ทรงพลังที่สุดก็คือสื่อโซเชียล และเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ ดังนั้นหนึ่งในกิจกรรมที่ควรนำมาใช้สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และกลุ่มลูกค้าในขั้นตอนก่อนการแจกของพรีเมี่ยมใดๆ ก็คือการให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น บัญชีโซเชียลเน็ตเวิร์กของบริษัท องค์กร โดยอาจเป็นลักษณะของการตอบคำถามผ่านโพสต์บนโซเชียลขององค์กร หรือการแชร์ การบอกต่อกิจกรรมขององค์กรไปยังเพื่อนๆ และกลุ่มคนที่อยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของกลุ่มลูกค้า วิธีนี้นอกจากจะเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และลูกค้าแบบทันยุคทันสมัยแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างการรับรู้และจดจำองค์กรในวงกว้าง ซึ่งนอกเหนือไปจากกลุ่มเป้าหมายขององค์กรอีกด้วย เพราะอย่างที่ทราบกันว่าผู้ใช้งานสื่อโซเชียลประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่หลากหลาย และในกลุ่มเพื่อน หรือเครือข่ายสังคมของลูกค้าคนนึงก็ไม่ได้จำกัดแค่เพียงกลุ่มคนในช่วงวัยเดียวกัน ระดับการศึกษาเหมือนกัน หรือหน้าที่การงานแบบเดียวกันเท่านั้น

เลือกบริษัทผลิตของพรีเมี่ยมอย่างไร ให้ถูกใจที่สุด

ในปัจจุบันนั้น การเลือกของพรีเมี่ยมไว้สำหรับในการแจกลูกค้าเป็นของขวัญ หรืออาจจะนำมาแจกพนักงานเป็นขวัญกำลังใจ เป็นเรื่องที่ง่าย และหลายองค์กรมักจะทำกัน เนื่องจากในปัจจุบันมีบริษัทมากมาย ที่ได้ทำการจัดจำหน่าย และทำการผลิตของพรีเมี่ยมเหล่านี้มา...

ในปัจจุบันนั้น การเลือกของพรีเมี่ยม เช่น แฟลชไดร์ฟ พาวเวอร์แบงค์ ไว้สำหรับในการแจกลูกค้าเป็น Gift set ของขวัญ หรืออาจจะนำมาแจกพนักงานเป็นขวัญกำลังใจ เป็นเรื่องที่ง่าย และหลายองค์กรมักจะทำกัน เนื่องจากในปัจจุบันมีบริษัทมากมาย ที่ได้ทำการจัดจำหน่าย และทำการผลิตของพรีเมี่ยมเหล่านี้มา และเนื่องจากมีบริษัทมากมายหลากหลาย ที่ให้เราเลือกใช้บริการนี่เอง ทำให้เป็นเรื่องที่ยากต่อการตัดสินใจ เราไม่มีทางรู้เลยว่า บริษัทที่รับผลิตของพรีเมี่ยมเหล่านั้น เป็นบริษัทที่จะผลิตของออกมาถูกใจเรา หรือของที่ได้จากตรงปกหรือไม่ ดังนั้นในวันนี้ เราจะมาคุยกันเรื่องของ วิธีการในการเลือกบริษัทผลิตของพรีเมี่ยม ว่าเราจะเลือกบริษัทอย่างไร ให้สินค้าและบริการที่ได้นั้น ถูกใจเรามากที่สุด และให้แน่ใจกับเราซึ่งเป็นผู้ใช้บริการด้วยว่า เราจะได้สินค้าที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป

 

สามารถให้ข้อมูลกับลูกค้าอย่างครบถ้วนแม่นยำ

 

ข้อแรกที่เราจะสามารถเช็คได้ ว่าบริษัทผลิตของพรีเมี่ยมนั้นเป็นบริษัทที่เราควรใช้บริการหรือไม่ หรือเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือพอหรือไม่ คือเราจำเป็นที่จะต้องสอบถามข้อมูลกับบริษัทเหล่านั้น บริษัทผลิตของพรีเมี่ยมที่ดีนั้น ควรที่จะสามารถให้ข้อมูลกับลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าและบริการ เรื่องของตัวบริษัทเอง หรืออาจจะเป็นเรื่องของการให้บริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลประเภทไหนเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าพรีเมี่ยม หรือของพรีเมี่ยมเหล่านี้ บริษัทผลิตของพรีเมี่ยมที่ดีนั้น ควรจะให้ข้อมูลเหล่านี้กับลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำ เพื่อที่จะสามารถให้ลูกค้าได้นำไปประกอบการตัดสินใจ หรือแม้กระทั่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวบริษัทเองได้ด้วย

 

มีแหล่งที่ตั้งและข้อมูลเชื่อถือได้

 

และนอกจากจะสามารถให้ข้อมูลได้อย่างครบถ้วนแม่นยำแล้ว บริษัทผลิตของพรีเมี่ยมนี้จะต้องเป็นบริษัทที่มีตัวตนอยู่จริง โดยปกติแล้วลูกค้าน่าจะค้นหาบริษัทเหล่านี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด นอกจากทางเว็บไซต์แล้ว บริษัท ควรมีที่ตั้งอย่างเป็นทางการ หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆ สามารถที่จะให้ลูกค้าตรวจสอบได้ว่า บริษัทเหล่านี้มีตัวตนอยู่จริง และจำเป็นที่จะต้องมีเอกสารการจดทะเบียน หรือแม้กระทั่งหนังสือรับรองนิติบุคคลอย่างชัดเจนด้วย ดังนั้นหากต้องการที่จะเลือกบริษัทผลิตของเหล่านี้ อย่าลืมตรวจเช็คเรื่องเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วย

 

มีสินค้าครบจบในที่เดียว

 

หลายคนที่เลือกสั่งของ หรือต้องการที่จะผลิตของใดๆก็ตามในปริมาณมาก แน่นอนว่าต้องการบริษัทที่สามารถทำให้ได้ครบ และจบในที่เดียวอย่างแน่นอน ดังนั้นบริษัทที่ผลิตของเหล่านี้ที่ดี ควรจะมีสินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ถุงผ้า กระบอกน้ำ ปากกา หรือของพรีเมี่ยมอื่นๆ เพื่อที่จะเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าผู้มาใช้บริการ นอกจากจะมีสินค้ายอดนิยมที่ผู้คนนิยมนำมาแจกแล้ว การออกแบบสินค้าตามใจลูกค้าได้อย่างครบถ้วน นับว่าเป็นจุดแข็งที่สำคัญจุดนึงเลยทีเดียว ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้า และลูกค้าเลือกที่จะมาใช้บริการมาก

 

ดูจากรีวิวของผู้ใช้งานจริง

 

สำหรับตัวลูกค้าแล้ว วิธีการเช็คคุณภาพ หรือประสิทธิภาพของบริษัทได้ดีที่สุด คือการรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เดี๋ยวนี้การหารีวิวอ่านนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากแต่อย่างใด หากผู้คนชอบ ผู้คนจะโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นผลดีกับตัวบริษัทเป็นอย่างมาก ในทางกลับกันแล้ว หากสินค้าหรือบริการจากบริษัทเหล่านี้ไม่ได้คุณภาพดังที่ผู้คนคาดหวัง ผลลัพธ์จะกลับกัน ผู้คนก็จะโพสต์ลงในโลกออนไลน์เช่นเดียวกัน หากผู้ที่ใช้บริการต้องการจะตรวจเช็ค คุณภาพของบริษัทที่ตนเองต้องการจะ ใช้บริการ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการหารีวิวจากผู้ใช้งานจริง นอกจากง่ายที่สุดแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ดีที่สุดด้วย

 

การให้บริการก็ต้องน่าประทับใจด้วย

 

ถึงแม้ว่าสินค้าจะดีเพียงใด แต่หากบริการนั้นเป็นบริการที่แย่ ลูกค้าก็ไม่น่าจะยากใช้บริการจากบริษัทเหล่านั้นเท่าไหร่นัก ลูกค้าจะเลือกบริษัทที่จะใช้บริการ นอกจากจะเลือกจากคุณภาพของสินค้าแล้ว ยังอาจเลือกจากการให้บริการที่ดีและน่าประทับใจด้วย หากบริการดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว