เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบัน”ของพรีเมี่ยม” ถือเป็นหนึ่งในสมการสำคัญสำหรับการทำการตลาดของแบรนด์ธุรกิจ ห้างร้านต่างๆ โดยแต่ละแบรนด์จำเป็นต้องมีการจัดทำของพรีเมี่ยมที่มีการพิมพ์ชื่อ โลโก้ของแบรนด์ขึ้นเป็นครั้งคราว สำหรับใช้ในแคมเปญต่างๆ ที่จัดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสามารถจดจำ หรือรู้สึกประทับใจในแบรนด์มากขึ้น โดยที่การเลือกสินค้าที่จะนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมก็อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความเหมาะสมของฤดูกาลอย่างเช่นร่ม ความเหมาะสมกับลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย งบประมาณที่มี อย่างไรก็ตามมีสินค้าบางกลุ่มที่ต้องบอกว่าไม่เหมาะที่จะเลือกนำมาใช้เป็นของพรีเมี่ยมไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาใดก็ตาม และหลายคนก็อาจจะพอสังเกตเห็นได้ ซึ่งก็คือสินค้ากลุ่มเครื่องประดับนั่นเอง จะเห็นได้ว่านอกเหนือจากริสแบนด์ ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการโปรโมทแคมเปญแล้ว ก็แทบไม่มีเครื่องประดับชิ้นอื่นเลยที่แบรนด์ธุรกิจต่างๆเลือกใช้ทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมทาการตลาด ในบทความนี้จึงจะมาเผยเหตุผลให้ได้ทราบกันว่าแบรนด์ธุรกิจต่างๆ จึงไม่นิยมนำเอาสินค้ากลุ่มเครื่องประดับมาทำเป็นของพรีเมี่ยม
การบริโภคขึ้นอยู่กับรสนิยมเฉพาะ ซึ่งมีความหลากหลายและซับซ้อน เหตุผลประการแรกที่ทำให้การใช้สินค้ากลุ่มเครื่องประดับทำเป็นของพรีเมี่ยมทางการตลาดเป็นไอเดียที่ไม่เวิร์กสำหรับแบรนด์ธุรกิจต่างๆ ก็คือ การบริโภค หรือเลือกใช้งานสินค้ากลุ่มนี้นั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งมีความหลากหลายและซับซ้อน จึงยากที่จะดีไซน์สินค้าให้ออกมาถูกใจกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่นั่นเอง
ตัวสินค้าไม่มีประโยชน์ใช้งานในตัวเอง เหตุผลประการต่อมาก็คือสินค้าในกลุ่มเครื่องประดับนั้นไม่มีประโยชน์ใช้สอยในตัวเอง โดยประโยชน์อย่างเดียวของสินค้ากลุ่มนี้ก็คือความสวยงาม ซึ่งขึ้นอยู่กับความพึงพอใจเฉพาะบุคคลด้วย สรุปง่ายๆได้ว่าผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ธุรกิจต่างๆ ไม่มีความจำเป็นต้องการใช้งานมันนั่นเอง ดังนั้นโอกาสที่ของพรีเมี่ยมชิ้นนั้นๆจะถูกหยิบจับมาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันก็ย่อมมีน้อยตามไปด้วย
ยากต่อการพิมพ์ชื่อ สัญลักษณ์แบรนด์ เหตุผลประการต่อมาที่แบรนด์ธุรกิจต่างๆ ไม่นิยมเลือกนำเอาสินค้ากลุ่มเครื่องประดับมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมก็คือ ข้อจำกัดในการพิมพ์ชื่อ โลโก้ หรือสัญลักษณ์ใดๆที่สื่อถึงแบรนด์ลงไปนั่นเอง เนื่องจากสินค้ากลุ่มเครื่องประดับเป็นสินค้าที่มีขนาดเล็ก หลายๆชิ้นนั้นแทบไม่มีพื้นที่ให้พิมพ์ข้อความใดๆ ลงไป และถึงแม้ว่าจะสามารถพิมพ์ด้วยตัวอักษรขนาดเล็กลงไปได้ แต่ก็ยากต่อการสังเกตเห็น
ข้อจำกัดด้านงบประมาณ เหตุผลต่อมาที่ทำให้เครื่องประดับเป็นสินค้าที่ไม่เวิร์กอย่างยิ่ง หากจะเลือกนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมทางการตลาดก็คือ ข้อจำกัดในเรื่องของการใช้งบประมาณนั่นเอง เพราะหากต้องการสินค้าเครื่องประดับเกรดคุณภาพ ก็จะต้องใช้ต้นทุนค่าวัสดุสูงมาก ซึ่งอาจสูงกว่าสินค้าใช้งานทั่วไปกว่า 4-5 เท่า และในทางตรงกันข้ามหากเลือกใช้วัสดุราคาถูกเพื่อคุมงบประมาณ คุณภาพของเครื่องประดับที่ได้ก็อาจจะออกมาน่าผิดหวังมากๆ ทั้งในเรื่องของความคงทน และความสวยงาม
ไม่สามารถใช้เป็นสินค้าเชิงสัญลักษณ์ในแคมเปญพิเศษใดๆ ได้ อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้สินค้ากลุ่มเครื่องประดับเป็นไอเดียของพรีเมี่ยมที่ไม่เวิร์กสำหรับแบรนด์ธุรกิจต่างๆ ก็คือ ตัวสินค้าไม่สามารถนำมาใช้เป็นสินค้าเชิงสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายในแคมเปญพิเศษใดๆ ได้นั่นเอง ขณะที่สินค้าอีกหลายชิ้นหลายกลุ่มสามารถใช้เป็นสินค้าเชิงสัญลักษณ์ในแคมเปญพิเศษต่างๆ ได้ เช่น ถุงผ้าที่สามารถสื่อความหมายด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมได้ ปากกาและเครื่องเขียนต่างๆ ที่สามารถสื่อความหมายถึงการสนับสนุนการศึกษาของเด็กๆได้ เป็นต้น