การแจกของพรีเมี่ยมเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลายธุรกิจนำมาใช้เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพิ่มการจดจำแบรนด์ และกระตุ้นยอดขาย แต่หากไม่มีการวางแผนที่ดี ของพรีเมี่ยมที่แจกไปอาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และอาจกลายเป็นต้นทุนที่สูญเปล่า ดังนั้นการเลือกและแจกของพรีเมี่ยมให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงต้องมีแนวทางที่ชัดเจน
อันดับแรก ควรเลือกที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย การแจกของที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าจะช่วยให้ของเหล่านั้นถูกใช้งานจริง เช่น หากธุรกิจเป็นร้านกาแฟ การแจกแก้วน้ำที่สามารถพกพาได้จะทำให้ลูกค้าใช้ซ้ำทุกวันและจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ต่างจากการแจกของที่ไม่มีประโยชน์สำหรับลูกค้า ทำให้ของที่แจกไปถูกทิ้งอย่างไร้ค่า นอกจากนี้ หากธุรกิจเป็นร้านขายอุปกรณ์ไอที การแจกสายชาร์จคุณภาพดี หรือตัวแปลงปลั๊กไฟที่ใช้ได้หลายประเทศ ก็จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะลูกค้าสามารถใช้งานได้จริง และมีโอกาสพกติดตัวไปใช้นอกบ้าน ซึ่งจะทำให้แบรนด์ของคุณได้รับการโปรโมทไปในตัว
ต่อมาคือการเลือกของพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพ แม้ว่าของที่แจกจะเป็นของฟรี แต่ถ้าคุณภาพต่ำ ใช้งานได้ไม่นานก็พัง หรือดูไม่น่าประทับใจ อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ ธุรกิจควรเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดีในงบประมาณที่เหมาะสม การให้ของพรีเมี่ยมที่ทนทานและใช้งานได้จริงจะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงคุณค่าของแบรนด์และมีโอกาสกลับมาใช้บริการซ้ำ นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาถึงประโยชน์ของการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระบอกน้ำสเตนเลส หรือลูกค้าจะได้รับส่วนลดเมื่อใช้ถุงผ้าที่ได้รับแจกจากแบรนด์ของคุณ การใช้แนวคิดของพรีเมี่ยมรักษ์โลก นอกจากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในการลดขยะอีกด้วย
นอกจากนี้ การสร้างความพิเศษให้กับของพรีเมี่ยมสามารถเพิ่มมูลค่าได้ เช่น การออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือให้ลูกค้าเลือกสีหรือลวดลายเอง จะช่วยให้เกิดความรู้สึกพิเศษและอยากใช้ของนั้นมากขึ้น นอกจากนี้ อาจใช้วิธีการแจกของที่จำกัดจำนวนหรือแจกให้เฉพาะลูกค้ากลุ่มพิเศษ จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การแจกของพรีเมี่ยมในโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิดของลูกค้า หรือวันครบรอบของแบรนด์ ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตนเองได้รับความสำคัญและมีความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น หรืออาจสร้างเงื่อนไขให้ลูกค้าต้องร่วมกิจกรรมบางอย่าง เช่น การแชร์โพสต์ การเชิญเพื่อน หรือการทำภารกิจบางอย่างก่อนจะได้รับของพรีเมี่ยม ซึ่งช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมและสร้างความสนุกสนานให้กับแบรนด์
การกำหนดกลยุทธ์การแจกเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ธุรกิจควรวางแผนว่าจะให้ของพรีเมี่ยมกับใคร แจกในโอกาสไหน และทำอย่างไรให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น แจกเฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าถึงยอดที่กำหนด แจกในงานอีเวนต์ที่มีลูกค้าเป้าหมาย หรือใช้เป็นของแถมเมื่อสมัครสมาชิก จะช่วยให้ของพรีเมี่ยมที่แจกไปส่งผลกระทบเชิงบวกและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้มากขึ้น การแจกของพรีเมี่ยมในลักษณะนี้ยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพิเศษ และอาจกลายเป็นลูกค้าประจำที่ภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว นอกจากนี้ การแจกของพรีเมี่ยมแบบเป็นเซ็ต เช่น ชุดปากกา สมุดโน๊ต และแก้วน้ำที่มีดีไซน์เข้าชุดกัน จะทำให้ของที่แจกไปดูมีมูลค่ามากขึ้น และมีโอกาสที่ลูกค้าจะใช้งานร่วมกันเป็นเซ็ตเดียวกันมากกว่าแจกของเพียงชิ้นเดียว
สุดท้าย ควรมีการวัดผลและปรับปรุงกลยุทธ์ของพรีเมี่ยมอยู่เสมอ การแจกของเพียงอย่างเดียวโดยไม่วิเคราะห์ว่าได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการหรือไม่ อาจทำให้สูญเสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์ ธุรกิจควรเก็บข้อมูล เช่น ลูกค้ามีการนำของพรีเมี่ยมไปใช้จริงหรือไม่ ลูกค้าตอบรับต่อของที่แจกอย่างไร และของชิ้นไหนที่ได้รับความนิยม เพื่อใช้ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมในอนาคต วิธีการเก็บข้อมูลอาจทำได้โดยการสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้าโดยตรง หรือใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการดูฟีดแบคจากลูกค้า หากของพรีเมี่ยมที่แจกไปได้รับการพูดถึงในเชิงบวก หรือมีลูกค้านำไปใช้งานและโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย นั่นถือเป็นสัญญาณที่ดีว่ากลยุทธ์ของพรีเมี่ยมของคุณได้ผล