การแจกของพรีเมี่ยมถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยเพิ่มการจดจำแบรนด์และสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนอาจตั้งคำถามว่าหากมีงบจำกัดมาก เช่น ไม่เกิน 30 บาทต่อชิ้น จะทำได้จริงหรือไม่ และควรวางแผนอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ทางการตลาดสูงสุด? ในบทความนี้เราจะวิเคราะห์แนวทางที่เป็นไปได้จริง พร้อมแชร์เทคนิคการบริหารงบที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและประโยชน์ต่อแบรนด์
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า “ของพรีเมี่ยม” ไม่ได้หมายถึงสินค้าที่ต้องมีราคาสูงเสมอไป แต่หมายถึงสินค้าที่มีคุณค่าในสายตาของผู้รับ และสื่อสารแบรนด์ได้อย่างชัดเจน แม้จะเป็นงบจำกัด เช่น 20–30 บาทต่อชิ้น ก็สามารถเลือกสินค้าให้เหมาะกับงบและวัตถุประสงค์ของแคมเปญได้
ในทางปฏิบัติ ของพรีเมี่ยมงบไม่เกิน 30 บาท ต้องคัดเลือกอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ประเภทสินค้า และวิธีการใช้งาน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการตลาดเชิงรุก โดยสิ่งของเหล่านี้มักไม่เน้นความหรูหรา แต่ต้องใช้ประโยชน์ได้จริง เช่น อุปกรณ์สำนักงาน ของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือของที่มีดีไซน์สะดุดตา
คำตอบคือ ทำได้จริง แต่ต้องมีการวางแผนและเลือกสินค้าอย่างเป็นระบบ โดยคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก:
แม้งบ 30 บาทต่อชิ้นจะไม่มาก แต่ยังมีสินค้าในท้องตลาดที่น่าสนใจและใช้งานได้จริง เช่น ปากกา กระดาษโน้ต ร่มขนาดเล็ก พวงกุญแจ หรือถุงผ้าไซส์มินิ สิ่งสำคัญคือเลือกของที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันของผู้รับ ไม่ใช่ของที่ได้รับแล้วถูกวางทิ้งไว้เฉย ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าของพรีเมี่ยมมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น พัดที่พับได้พร้อมซองใส่ หรือพวงกุญแจที่ใช้เปิดขวดได้ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ผู้รับจะหยิบมาใช้งานบ่อย ซึ่งเท่ากับเป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์ทางอ้อมในทุกครั้งที่ใช้
ของพรีเมี่ยมที่ดีต้องสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ได้ทันที เช่น การสกรีนโลโก้ คำขวัญ หรือคีย์แมสเสจที่เชื่อมโยงกับบริการหรือสินค้าของเรา การเลือกสินค้าที่สอดคล้องกับธุรกิจ เช่น ธุรกิจสายเทคโนโลยีอาจเลือก USB หรือสายชาร์จพกพา (ที่ผลิตจำนวนมากในราคาต่ำได้) จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างของที่แจกกับธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
บริบทในการแจกของพรีเมี่ยมก็มีผลต่อความคุ้มค่าเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าแจกในงานอีเวนต์ที่มีคนจำนวนมาก ต้องการสร้างการรับรู้แบบกว้าง ๆ การใช้ของราคาประหยัดแต่ดูดีจะช่วยควบคุมงบประมาณ และได้จำนวนชิ้นที่มากพอจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นการแจกแบบเฉพาะกลุ่ม VIP อาจใช้ของในงบประมาณเดียวกันแต่เลือกสินค้าที่ดูพรีเมี่ยมจากการออกแบบ เช่น แพ็คเกจห่อผ้า หรือถุงใส่ของแบบมีแบรนด์ จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ได้ดี
สินค้าคลาสสิกที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และยังสามารถใช้งานได้จริง ปากกาแบบหมึกเจล พร้อมพิมพ์โลโก้บริษัท มีราคาเริ่มต้นเพียง 5–7 บาท ส่วนสมุดโน้ตขนาดพกพาเริ่มต้นที่ 15–20 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนหน้า
หากออกแบบหน้าปกให้โดดเด่น เช่น ใช้โทนสีของแบรนด์ และสื่อสารข้อความสำคัญได้ชัดเจน สมุดโน้ตเล่มเล็ก ๆ นี้จะกลายเป็นของพรีเมี่ยมที่มีคุณค่าสูงในการจดจำแบรนด์
พวงกุญแจยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยม ด้วยความหลากหลายของดีไซน์ที่สามารถทำให้สินค้าธรรมดาดูพิเศษได้ ทั้งวัสดุยางซิลิโคน ไม้ หรืออะคริลิก พวงกุญแจสามารถผลิตได้ในราคาประหยัด หากเลือกแบบที่มีฟังก์ชัน เช่น พวงกุญแจไฟฉาย หรือที่เปิดขวด ก็จะยิ่งเพิ่มคุณค่าให้ของชิ้นเล็ก ๆ นี้มากขึ้น
พัดพับได้หรือพัดพกพาที่สามารถสกรีนลายหรือโลโก้ได้ เป็นอีกหนึ่งของพรีเมี่ยมที่เหมาะสำหรับแจกในกิจกรรมกลางแจ้ง งานประชาสัมพันธ์ หรืองานแสดงสินค้า มีต้นทุนต่ำแต่สามารถสื่อสารแบรนด์ได้ดี
เข้าใจว่าผู้รับคือใคร ใช้ชีวิตแบบไหน และอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ จะช่วยให้เราเลือกของพรีเมี่ยมที่สอดคล้องกับความต้องการของคนกลุ่มนั้น เช่น กลุ่มนักเรียนนักศึกษา อาจเหมาะกับของใช้เช่น สมุดโน้ต ปากกา หรือแฟลชไดร์ฟ ส่วนกลุ่มแม่บ้านอาจชอบถุงผ้าหรือของใช้ในครัว
การออกแบบโลโก้หรือข้อความให้น่าสนใจ เป็นอีกจุดที่ทำให้ของพรีเมี่ยมดูน่าใช้มากขึ้น แม้ตัวสินค้าจะราคาถูก แต่หากใช้สีและการวางองค์ประกอบให้ดี จะดูมีราคาและสื่อถึงความตั้งใจของแบรนด์ได้ชัดเจน
การสั่งผลิตจำนวนมากช่วยลดต้นทุนต่อชิ้นลงได้มาก ยิ่งถ้าเป็นของที่มีแบบมาตรฐานอยู่แล้ว โรงงานสามารถผลิตได้เร็วและราคาถูกลงมาก หากคุณต้องการแหล่งผลิตที่คุ้มค่าและสามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างมืออาชีพ โรงงานของพรีเมี่ยม.com มีบริการสกรีนโลโก้ครบวงจรตั้งแต่สั่งผลิตจนถึงจัดส่ง
การแจกของพรีเมี่ยมงบไม่เกิน 30 บาท ทำได้จริง และสามารถให้ผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดี หากมีการวางแผนและเลือกสินค้าอย่างเหมาะสม ตั้งแต่การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เลือกประเภทสินค้าที่ใช้งานได้จริง ออกแบบให้สื่อความหมายถึงแบรนด์ และควบคุมงบประมาณอย่างเป็นระบบ