เมื่อพูดถึงการจัดทำของพรีเมี่ยมสักชิ้นสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ก็แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว บริษัท องค์กรต่าง ๆ หรือบรรดานักการตลาดมักจะถึงเรื่องของการออกแบบรูปทรง หน้าตาของสินค้าชิ้นนั้น ๆ เพื่อให้สินค้าดูมีความแมตช์กันได้กับแคมเปญ หรือสามารถสื่อสารเอกลักษณ์ของแบรนด์องค์กรเราออกไปได้ดีที่สุด เรียกได้ว่าหลายคนมักหลงลืมที่จะใส่ใจในรายละเอียดอื่น ๆ ของตัวสินค้าไปนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสินค้าที่นิยมเลือกนำมาใช้เป็นของพรีเมี่ยมกันมักจะเป็นสินค้าประเภทของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างเช่น ปากกา กระบอกน้ำ power bank ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตที่ไม่ซับซ้อนอะไร แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว การผลิตสินค้าสักชิ้นเพื่อใช้เป็นของพรีเมี่ยมสำหรับกิจกรรมทางการตลาดนั้น มีรายละเอียดหลายส่วนที่เราต้องใส่ใจและส่งผลต่อประสิทธิผลทางการตลาดที่จะได้รับมากกว่าเราคิดไว้ ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำให้ได้ทราบกันว่ามีรายละเอียดส่วนไหนบ้างที่เราต้องใส่ใจตรวจเช็คในงานผลิตของพรีเมี่ยมต่าง ๆ รูปแบบการพิมพ์ชื่อ โลโก้ อย่างที่ทราบกันดีว่าส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ และทำให้ตัวสินค้าดูแตกต่างไปจากสินค้าที่มีวางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดก็คือ ชื่อแบรนด์ องค์กร และโลโก้ หรือตราสัญลักษณ์ที่จะพิมพ์ลงไปบนตัวสินค้านั่นเอง เพราะถือเป็นส่วนที่มีผลต่อการกระตุ้นการจดจำแบรนด์ หรือองค์กรของเราในหมู่ลูกค้ามากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหลายคนมักจะให้ความสำคัญกับการออกแบบ การเลือกฟอนต์ การเลือกสี การดีไซน์โลโก้ที่จะพิมพ์ลงไป แต่ทว่าในขั้นตอนการผลิตจริง ๆ ยังมีสิ่งสำคัญสำคัญอีกอย่างที่เราควรใส่ใจเลือก ซึ่งก็คือการเลือกรูปแบบการพิมพ์นั่นเอง โดยรูปแบบ หรือวิธีการพิมพ์ข้อความ สัญลักษณ์ต่าง ๆ ลงไปบนของพรีเมี่ยมชิ้นใด ๆ นั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบด้วยกัน และแต่ละรูปแบบก็มีข้อดี ข้อเสียและความเหมาะสมกับพื้นผิวของตัวสินค้าที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงมีต้นทุนที่แตกต่างกันด้วย ตัวอย่างเช่น การสกรีนน้ำหมึกลงบนตัวสินค้าโดยผ่านบล็อค วิธีนี้จะเหมาะสำหรับของพรีเมี่ยมประเภทที่ใช้วัสดุเส้นใยธรรมชาติ กระเป๋าผ้า เสื้อยืด การพิมพ์แบบ Flex Print(เฟล็กซ์ ปริ้น) หรือก็คือการรีดติดด้วยความร้อน วิธีนี้มีข้อดีตรงที่ชื่อ ตัวอักษร หรือโลโก้ใด ๆ ที่พิมพ์ลงไปนั้นจะดูมีมิติมากกว่าการสกรีน ซึ่งก็เหมาะสำหรับของพรีเมี่ยมประเภทเสื้อผ้าเช่นกัน การพิมพ์แบบ UV Printing ยูวีปริ้นท์ติ้งถือเป็นเทคนิคการพิมพ์คุณภาพ มีความยืดหยุ่นในการพิมพ์ลงบนพื้นผิวหลากหลาย เรียกได้ว่าครอบคลุมกับสินค้าทุกรูปแบบทั้งเสื้อผ้า แก้วน้ำ พลาสติก โลหะ และยังมีข้อดีตรงที่สามารถเลือกผิวสัมผัส หรือเทกเจอร์ของข้อความ โลโก้ที่พิมพ์ลงไปได้ด้วย เช่น แบบมันวาว แบบนูนด้าน เป็นต้น เทคนิคการตัดเย็บ อย่างที่ทราบกันว่าของพรีเมี่ยมยอดนิยมหลายชิ้นนั้นผลิตโดยวัสดุประเภทผ้า หรือเส้นใยธรรมชาติต่าง ๆ เช่น กระเป๋า เสื้อยืด เสื้อโปโล แจ็คเก็ต ผ้าห่ม ฯลฯ ซึ่งกระบวนการผลิตที่ถูกใช้กับวัสดุเหล่านี้โดยตรงก็คือการตัดเย็บนั่นเอง ดังนั้นอีกหนึ่งรายละเอียดที่เราควรให้ความสำคัญก็คือการเลือกรูปแบบการตัดเย็บนั่นเอง ซึ่งโรงงานผู้ผลิตของพรีเมี่ยมก็จะมีรูปแบบการตัดเย็บให้เราเลือกตามความเหมาะสมของตัวสินค้า หรือคุณภาพสินค้าที่เราคาดหวัง ตัวอย่างเช่น การตัดเย็บแบบไร้รอยต่อ การตัดเย็บแบบไร้ตะเข็บ การตัดเย็บโดยใช้ผ้าหลายชิ้นมาเย็บต่อกัน เป็นต้น โดยรูปแบบ หรือเทคนิคการตัดเย็บดังกล่าวก็อาจทำให้ต้นทุนในการสั่งผลิตของพรีเมี่ยมชิ้นนั้น ๆ แตกต่างกันออกไปด้วย เราจึงควรตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมกับคุณภาพที่คาดหวังและงบประมาณที่มี