เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันของพรีเมี่ยมถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำการตลาดเพื่อโปรโมทแบรนด์ องค์กร หรือแคมเปญต่าง ๆ ที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้คนในแต่ละช่วงเวลา และหนึ่งในปัจจัยที่แต่ละแบรนด์ แต่ละองค์กรให้ความสำคัญในการจัดทำของพรีเมี่ยมแต่ละชิ้นก็คือเรื่องของดีไซน์ หน้าตาสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลวดลายที่พิมพ์ลงบนตัวสินค้า เพราะถือเป็นส่วนที่มีผลต่อการดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด โดยที่การออกแบบ เลือกลวดลายต่าง ๆ มาใส่ในตัวสินค้านั้นก็มักจะคำนึงถึงความแมตช์กันได้กับแคมเปญการตลาดนั้น ๆ และลักษณะของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการมอบของพรีเมี่ยมให้ อย่างไรก็ตามในการเลือกออกแบบ ใส่ลวดลายใดๆลงบนของพรีเมี่ยมนั้นก็ยังมีข้อควรระวังที่สำคัญที่หลายแบรนด์ หลายองค์กรมักมองข้ามไปอยู่เช่นกัน ซึ่งก็คือเรื่องของลิขสิทธิ์ หรือทรัพย์สินทางปัญญาที่อาจติดอยู่บนส่วนใดส่วนหนึ่งของดีไซน์สินค้าแต่ละชิ้น และอาจนำมาซึ่งผลเสียและปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จากการใช้สินค้าชิ้นนั้น ๆในแคมเปญการตลาดใด ๆ นั่นเอง ในบทความนี้จึงได้นำเอาข้อควรระวังต่างๆ เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ในการจัดทำของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในเคมเปญการตลาดต่าง ๆ มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน
ลวดลายการ์ตูนชื่อดัง จุดหนึ่งที่แบรนด์ต่าง ๆ หรือนักการตลาดหลายคนมักพลาดและกลายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นก็คือ การนำลวดลายตัวการ์ตูนจากอนิเมชั่นเรื่องดังต่าง ๆ มาใช้เป็นส่วนประกอบของดีไซน์ของพรีเมี่ยมที่จัดทำขึ้นอย่างเช่นลวดลายในกระเป๋าผ้า ปากกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคมเปญการตลาดที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเด็ก ๆ และวัยรุ่น การเลือกใช้ลวดลายการ์ตูนน่ารักต่าง ๆ ก็นับเป็นไอเดียยอดฮิตที่นักการตลาดส่วนใหญ่นึกถึงกัน ทั้งนี้การเลือกนำเอาลวดลายตัวการ์ตูนชื่อดังมาพิมพ์เป็นลวดลายของสินค้าพรีเมี่ยมนั้นถือเป็นไอเดียการทำการตลาดพื้นฐานที่เราพบเห็นกันมานานหลายสิบปีแล้ว และปัจจุบันแบรนด์ยักษ์ใหญ่ก็ยังนิยมใช้ในแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ของตนเอง แต่ทว่าโดยทั่วไปแล้วก่อนที่แบรนด์นั้น ๆ จะนำเอาลวดลายใดๆ มาพิมพ์ลงบนของพรีเมี่ยมชิ้นนั้น ๆ ก็มักจะมีการทำข้อตกลง และจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน ซึ่งเรียกว่าเป็นการใช้ลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ดังนั้นหากเป็นการเลือกนำเอาลวดลายตัวการ์ตูนใด ๆ มาพิมพ์ลงบนสินค้าพรีเมี่ยมของเรา โดยที่ไม่ได้มีการพูดคุยและจ่ายค่าลิขสิทธิ์แก่เจ้าของก่อน ก็จะเท่ากับเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และอาจนำมาซึ่งการถูกฟ้องร้องในภายหลังได้นั่นเอง
รูปทรงสินค้าที่เหมือนกับแบรนด์ดังต่าง ๆ นอกจากเรื่องของลวดลายที่จะนำมาพิมพ์ลงบนตัวสินค้าแล้ว สิ่งต่อมาที่ควรระมัดระวังในขั้นตอนการออกแบบของพรีเมี่ยมเช่นกันก็คือ รูปทรงของตัวสินค้า ซึ่งไม่ควรเลือกใช้รูปทรงที่เหมือนกันกับรูปทรงของแบรนด์ชื่อดังต่าง ๆ เพราะโดยทั่วไปแล้วเมื่อมีการคิดค้นดีไซน์สินค้าใด ๆ ออกมา และมีการผลิตออกมาวางจำหน่ายจริงนั้น แบรนด์เจ้าดังต่าง ๆ มักจะมีการยื่นจดลิขสิทธิ์ไว้เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ ดังนั้นในการเลือกรูปทรงสินค้าเราจึงควรต้องระมัดระวังไม่ให้มีรูปทรงที่เหมือนกันกับแบรนด์ชื่อดังแบบ 100%
ฟังก์ชั่นใช้งานพิเศษต่าง ๆ อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่มักนำมาซึ่งปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์อยู่บ่อยครั้งเช่นกันก็คือ ฟังก์ชั่นการใช้งานพิเศษต่าง ๆ ของตัวสินค้า ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้ว ของพรีเมี่ยม หรือสินค้าชิ้นใด ๆนั้นจะแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานของตัวสินค้าได้เป็นสองแบบ คือฟังก์ชั่นการใช้งานหลัก กับฟังก์ชั่นใช้งานพิเศษ ซึ่งฟังก์ชั่นใช้งานหลักก็คือ ประโยชน์การใช้งานหลักของตัวสินค้า ตัวอย่างเช่น กระบอกน้ำใช้สำหรับบรรจุเครื่องดื่ม ๆ ร่มใช้งานสำหรับกางกันแดด กันฝน เป็นต้น ขณะที่ฟังก์ชั่นพิเศษนั้นอาจมีความแตกต่างออกไปตามการครีเอทของผู้ผลิตแต่ละราย เช่น รูปแบบการเปิดปิดที่แตกต่างจากกระบอกน้ำใบอื่น ๆ รูปแบบการพับเก็บที่แตกต่างจากร่มที่วางจำหน่ายในตลาดทั่วไป เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชั่นใช้งานพิเศษเหล่านี้เองที่เราต้องระมัดระวังในการนำมาใช้กับของพรีเมี่ยมชิ้นใด ๆ เพราะอาจเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์ผู้คิดค้นและได้มีการจดทะเบียนไว้นั่นเอง