ในการทำธุรกิจไม่ว่าจะธุรกิจใดก็ตามนั้น กลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีเปรียบเสมือนกุญแจสำคัญ ที่จะนำพาธุรกิจของเราไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนได้ ยิ่งทุกวันนี้การแข่งขันในตลาดไม่ว่าจะธุรกิจอะไรค่อนข้างสูง การคิดหากลยุทธ์ต่างๆ เพื่อที่จะสามารถครองใจลูกค้าได้ก็ยิ่งมีความจำเป็นสำหรับธุรกิจเข้าไปอีก ซึ่งกลยุทธ์ที่ดีนั้น จะต้องไม่เพียงแค่สามารถกระตุ้นหรือเพิ่มยอดขายได้ แต่ยังต้องทำหน้าที่ในการสร้างความจดจำในแบรนด์ได้อีกด้วย ทั้งนี้การตรวจสอบผลลัพธ์ ก็คือการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้านั่นเอง
กลยุทธ์ทางการตลาดนั้นก็ยังมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายวิธีการ โดยวิธีที่เราเห็นกันทั่วไปนั้น ก็คือการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายในราคาพิเศษ การลดราคาสินค้า หรือการมีของสมนาคุณ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าของพรีเมี่ยมนั่นเอง ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในวิธีการทำการตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นการซื้อสินค้าของลูกค้าแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของเราได้ ผ่านตัวของพรีเมี่ยมเหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกัน
และหากเราจะมาคุยกันเรื่องของของพรีเมี่ยม ส่วนใหญ่แล้วเราก็มักจะอยู่ในรูปแบบของสิ่งของที่เราสามารถหยิบมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งของเหล่านี้อาจเป็นของที่ใช้งานได้จริง หรืออาจเป็นของสะสมก็ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้ว ของพรีเมี่ยมที่ดีจะต้องดึงดูดลูกค้าได้ แต่ละแบรนด์ที่ผลิตขึ้นมา จะต้องมั่นใจว่าของของเรามีความน่าสนใจมากพอ ถึงแม้มันจะดูเป็นกลยุทธ์ที่ดี แต่ของพรีเมี่ยม ก็ใช่ว่าจะได้ผลทุกครั้ง แล้วปัจจัยใดบ้าง ที่จะทำให้กลยุทธ์ทางการตลาดนี้ไม่ได้ผลและไม่ประสบความสำเร็จ เราไปดูกันได้เลย
กลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน
ข้อสำคัญที่ห้ามทำเด็ดขาดในการใช้กลยุทธ์ของพรีเมี่ยม นั่นก็คือการไม่กำหนดกลุ่มเป้าหมายใดๆเลย หรือก็คือกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจนนั่นเอง เนื่องจากหากไม่กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะไม่สามารถผลิตสินค้าที่ต้องการได้ ส่วนใหญ่แล้วกลยุทธ์ที่แนะนำคือการผลิตสินค้านี้ให้สอดคล้องกับสินค้าหลัก ดังนั้นจะต้องรู้ก่อนว่าเราผลิตอะไร แล้วผลิตเพื่อใคร จากนั้นลูกค้าจะทำหน้าที่ตัดสินใจเอง ว่าจะซื้อสินค้าหลักของเราหรือไม่ เห็นคุณค่าของสินค้าของเรามากน้อยเพียงใด และนำไปใช้ได้จริงหรือเปล่า
ระยะเวลาในการทำโปรโมชั่นไม่เหมาะสม
นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน การกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม การมีระยะเวลาที่จำกัด จะช่วยในการเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้เป็นอย่างดี กับของพรีเมี่ยมเช่นเดียวกัน ควรจะจัดโปรโมชั่นให้อยู่ในระยะเวลาที่กำลังพอดี และหากมีการกำหนดเงื่อนไขอื่นร่วมด้วย อาจจะเพิ่มความน่าสนใจของสินค้าของเรา ยกตัวอย่างเช่น การผลิตสินค้าแบบ Limited Edition ที่หาซื้อได้เพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แบบนี้จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ง่ายกว่า
สินค้าหาที่ไหนก็ได้
ข้อสำคัญของการใช้กลยุทธ์ของพรีเมียมก็คือ การสร้างความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม อาจจะเป็นการเพิ่มดีไซน์หรือลูกเล่นเสริมเข้าไป เพื่อที่จะบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ของเรา หรือไม่ก็ทำสินค้าออกมาให้เป็นในรูปแบบของ limited edition อย่างที่กล่าวไป ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี เปรียบเสมือนของของเราสามารถหาได้จากที่นี่แค่ที่เดียวเท่านั้น อย่างเช่นการสกรีนชื่อหรือโลโก้ลงไปในสินค้า อย่างเช่นกระเป๋าผ้า ร่ม เป็นต้น
ไม่ใช่ว่าอยากทำตอนไหนก็ทำ
การผลิตของพรีเมี่ยมเพื่อนำมากระตุ้นยอดขายนั้น จริงอยู่ว่าไม่มีช่วงเวลาไหนที่ถูกหรือผิดในการเลือกจะทำ มันขึ้นอยู่กับแผนและกลยุทธ์การตลาดของแต่ละแบรนด์ แต่ก็น่าจะดีไม่น้อย หากเรากำหนดกลยุทธ์ และช่วงเวลาในการที่จะทำอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่นการทำของเหล่านี้มาในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งทำให้น่าสนใจ ทำให้สามารถเลือกได้ว่าผลิตภัณฑ์ประเภทไหน หรือดีไซน์แบบไหน จะเหมาะกับช่วงเทศกาลนั้น ๆ อย่างเช่นเดือนเมษายนเป็นฤดูร้อนของพรีเมี่ยมก็อาจจะเป็นกระบอกน้ำ เดือนมิถุนายนที่เป็นฤดูฝนอาจะจะใช้ของพรีเมี่ยมคือร่ม เป็นต้น หากทำเป็นประจำลูกค้าก็จะจดจำได้และคุ้นชิน อาจจะรอของของเรามาในช่วงเทศกาลปีหน้า