กรอบรูป ของพรีเมี่ยม น่าสนใจสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว

สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรพกกลับมาจากการไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ที่ดีที่สุดคือ… ความทรงจำ ! ไม่ใช่การแอบเก็บเอาสิ่งของในสถานที่แห่งนั้นๆ กลับมา และยิ่งไม่ใช่การไปทิ้งร่อยรอยความเสียหายเอาไว้ยังที่เราไปเยือน… และสิ่งที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเก็บความทรงจำเอาไว้ได้นานและเด่นชัดมากที่สุดก็เห็นจะได้แก่ภาพถ่าย โดยเฉพาะภาพนิ่ง ที่มันก่อให้เกิดจินตนาการได้มากเสียยิ่งกว่าภาพเคลื่อนไหว มันทำให้เกิดความระลึกถึง… การท่องเที่ยวกับการถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกจึงเป็นของคู่กัน นักท่องเที่ยวย่อมอยากเก็บบรรยากาศและการมีส่วนร่วมของเขากับสถานที่นั้นๆ เอาไว้เพื่อให้ได้ระลึกถึง ในกรณีเป็นผู้ประกอบการ การสร้างความทรงจำที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะวันนี้เขามาเที่ยว หากว่าประทับใจเขาย่อมกลับมาอีก และเขาย่อมบอกเล่าความประทับใจต่อให้กับเพื่อนฝูงคนรู้จัก สถานที่ของเราก็จะยิ่งมีคนมาเที่ยวมากขึ้น และเพื่อให้เขาจดจำเราได้ดียิ่งขึ้น เราควรมีของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ มอบให้ตอบแทนการมาเยือนและใช้บริการของเรา ซึ่งเราอาจจะสั่งผลิต ของพรีเมี่ยม เป็นการเฉพาะเอาไว้มอบให้

ของพรีเมี่ยม ที่น่าสนใจสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว แน่นอนว่ามันควรเป็นอะไรที่เกี่ยวกับรูปภาพ เช่นกรอบรูปพร้อมรูปของเขา แน่นอนว่าการทำลักษณะนี้มีทำอยู่แทบทุกที่ แต่… ส่วนใหญ่ทำเพื่อขาย ! ไม่ใช่ทำเพื่อเป็นของที่ระลึก จริงๆ สร้างความรู้สึกด้านลบเสียด้วยซ้ำ เพราะส่วนใหญ่เขาซื้อบัตรเข้ามา และเข้ามาจับจ่ายสร้างรายได้ให้กับสถานที่อยู่แล้ว การแอบถ่าย หรือขอถ่ายภาพเขาแล้วเอามาใส่กรอบขายแม้จะสร้างรายได้แต่ดูไม่เหมาะนัก ควรทำและมอบให้ไปฟรีๆ จะดีที่สุด คิดเสียว่านั่นคือการทำการตลาด ซึ่งเชื่อได้ว่ามันได้ผลมากเสียยิ่งกว่าการขาย

อย่าลืมว่าแต่ละปีเราต้องจ่ายเงินค่าทำการตลาดทำโฆษณาไปเท่าไหร่ กว่าจะได้ลูกค้า ลองคิดดูดีๆ ว่าแบบนั้นเปลืองกว่า สั่ง ของพรีเมี่ยม ประเภทกรอบรูปที่เราทำแล้วมอบให้เขาเปล่าหรือไม่ ? และหากใครกังวลมาก เราสามารถบวกราคาค่ากรอบรูปเข้าไปได้ในค่าผ่านเข้า อีกเล็กน้อย มันดูดีกว่าการเอารูปเขาไปวางขายให้เขาโดยที่เขาไม่ได้บอกให้เราถ่ายเยอะ ! แถมส่วนใหญ่เขาอาจจะไม่รับ แถมอาจไม่พอใจก็ได้ นั่นเป็นเรื่องที่เสียเปล่าๆ อย่างแท้จริง !

และยิ่งจะดีมากขึ้น หากของพรีเมี่ยม กรอบรูปที่เราซื้อ สามารถสั่งผลิตขึ้นรูปได้ตามที่เราต้องการ เพราะเราสามารถให้เขาออกแบบเป็นรูปร่างที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ของเรา หรือเป็น Logo ของสถานที่ท่องเที่ยวก็ได้ กลายเป็นของที่ระลึกที่เขาสามารถเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่งได้มาที่นี่แล้ว และภาพพร้อมกรอบนี้มันจะอยู่ที่บ้านของเขา เมื่อใดก็ตามที่เขามีเพื่อนมาเยือนและเห็นเข้า เขาจะทำหน้าที่เป็นพนักงานขาแนะนำสถานที่ของเราต่อทันที แบบนี้แจกคุ้มกว่าขายจริงหรือไม่ !?

ร้านขายโทรศัพท์มือถือกับ ของพรีเมี่ยม

โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งของคนเราไปแล้ว… และในปัจจุบันก็ต้องยกให้โทรศัพท์แบบ Smart Phone ที่กำลังครองตลาด และมันไม่ได้ทำหน้าที่เป็นโทรศัพท์ แต่มันทำหน้าที่เป็นชุดเครื่องมือสื่อสารและระบบความบันเทิงแบบมายกชุด ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ โพสต์ระบายความในใจให้คนอื่นรู้ เป็นช่องทางการโฆษณาและอื่นๆ อีกเต็มไปหมด ! สรุปก็คือ คนปัจจุบันขาดโทรศัพท์มือถือไม่ได้ ! บางคนบอกว่าการลืมโทรศัพท์มือถือร้ายแรงเสียยิ่งกว่าการลืมพกกระเป๋าเงินออกจากบ้าน ! และนั่นทำให้ธุรกิจการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเฟื่องฟู และแน่นอนว่าเมื่อเฟื่องฟู ย่อมแปลว่ามีคู่แข่งมากตามไปด้วย ! และนั่นแหละเป็นที่มาของการที่เราต้องหา ของพรีเมี่ยม มาใช้เพื่อส่งเสริมการขาย…

โทรศัพท์ เป็นสินค้าที่อยากจะแข่งกันในเรื่องความแตกต่างของสินค้าในแต่ละร้าน เนื่องจากเราไม่ได้ผลิตเอง เราจะต้องไปซื้อมาจากผู้ผลิตอีกต่อ ซึ่งนั่นหมายความว่าคู่แข่งของเราก็สามารถทำได้เหมือนๆ กัน แปลว่าทุกคนทุกร้านมีโอกาสที่จะมีสินค้าเหมือนกันหมด ! แล้วทีนี้อะไรล่ะที่จะเป็นตัวทำให้ผู้ที่อยากได้โทรศัพท์ ต้องมาซื้อสินค้าจากเรา ? เพราะเขาซื้อจากเจ้าไหนๆ ก็เหมือนกัน

บางคนอาจจะใช้วิธีลดราคา ซึ่งก็เป็นวิธีที่ได้ผล แต่ก็แข่งกันง่าย ยิ่งแข่งกันหนักก็ยิ่งเข้าเนื้อกำไรลด ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่เหมาะเท่าไหร่นัก การมีของแจกของแถมที่น่าสนใจ อาจเป็นวิธีที่ดีกว่า เพราะมันเป็นการจูงใจให้คนเข้ามาซื้อได้โดยที่เราไม่เสียราคาของที่ขาย อีกทั้ง เรายังสามารถเลือกสั่งสินค้า ของพรีเมี่ยม ที่มีความแปลกแตกต่างจากเจ้าอื่นมาได้ด้วย ทำให้เกิดความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

หากถามว่าอะไรล่ะที่น่าสนใจเลือกซื้อหรือสั่งผลิตมาใช้แจกหรือแถม ? คิดว่าสำหรับโทรศัพท์มือถือนั้น สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ มีหลายอย่างแต่หากอยากให้เราได้แทรกการตลาดลงไปด้วย ก็น่าจะเป็น Power Bank หรือไม่ก็ Case ของโทรศัพท์ ทั้งนี้เนื่องจาก เราสามารถใส่โลโก้พิมพ์ลงไปบนของแจกเหล่านั้นได้ในขนาดที่พอเห็นได้ชัดเจน ซึ่งอาจจะต้องมีการออกแบบโลโก้ที่สวยสักหน่อย เพราะมันเป็นของที่เวลาใช้จะต้องโชว์ให้คนอื่นเห็น หากว่าไม่สวย แลดูเชยแล้ว เป็นไปได้ว่ามันจะถูกนำมาใช้ ! หรือใช้แบบแอบๆ ซึ่งมันคงไม่เป็นผลดีในเชิงการตลาดกับเรา… แต่หากว่ามีทั้งสินค้า ของพรีเมี่ยม ที่ดีมีการออกแบบที่น่าสนใจ มันจะกลายเป็นจุดเด่นจุดขาย ที่คนบอกปากต่อปากให้มาใช้บริการหรือซื้อสินค้าที่ร้านของเราทันที ดังนั้นหากเราไม่สามารถสร้างความแตกต่างในเรื่องสินค้า ไม่อยากลดราคาให้เสียเกรด ลองหันมามองของแถม และมันย่อมดีกว่าหากเป็นของแถมที่สามารถใช้ได้ผลในทางการตลาดทำให้คนรู้จักเราได้ในเวลาเดียวกัน

ของพรี่เมี่ยม อุปกรณ์การตลาดทะลุการ์ดผู้บริโภค

การดำเนินธุรกิจ ย่อมจะไม่สามารถประสบความสำเร็จอย่างใหญ่โตได้หากขาดการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ! เรื่องนี้เชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทราบดี ว่าการตลาดคือหัวใจสำคัญในการเพิ่มยอดขาย และทำให้ธุรกิจเติบโตก้าวหน้า มันเป็นสิ่งที่จะออกไปโน้มน้าว ชักชวน หรือ… ทำให้เชื่อ ! ว่าสินค้าหรือบริการของเรานั้น “ดี” ที่สุดสำหรับคนนั้นๆ แต่ปัจจุบัน แค่การออกไปบอกว่าสินค้าของเราดีแบบนั้นแบบนี้ ชักไม่ค่อยได้ผล เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่มีการตั้งแง่ หรือบางทีก็เรียกว่าตั้งกำแพงหรือ ตั้งการ์ด (แบบการ์ดมวย) ป้องกันการทะลุทะลวงของโฆษณาแนวบอกว่าสินค้าของฉันดีอย่างนั้นอย่างนี้จากตัวผู้ผลิตหรือผู้ขายที่แข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก หนึ่งในนั้นก็เป็นผลมาจากตัวของผู้จำหน่ายเอง ที่ระดมทุ่มกำลังสร้างสื่อโฆษณากันออกมาแบบไม่ยั้ง ทำให้เกิดการท่วมทับของข้อมูลจนผู้บริโภคเกิดความเบื่อหน่าย… เป็นจริงหรือไม่ ลองดูได้จากเวลาที่เราดูรายการโทรทัศน์ ช่วงพักโฆษณา เราใช่มีการกดรีโมตทีวีเปลี่ยนช่องหรือไม่ ? เวลาที่เราเดินไปไหนเห็นป้ายโฆษณา มีสักกี่ป้ายที่พอเรากลับมาบ้านแล้วจำได้ว่าเห็น ? นี่ยังไม่นับว่าที่เห็นหรือจำได้นั้นมีเหลือสักเท่าไหร่ที่ทำให้เราสนใจอยากซื้อ !? นี่คืออาการการท่วมทับของโฆษณาที่มากเกินไปจนคนเกิดความเบื่อ ! ดังนั้นการทำการตลาดแนวเก่าแบบเล่าว่าของฉันดีอาจจะได้ผลที่น้อยลงไป เราจะต้องมาหาวิธีใหม่ ในการทำการตลาดที่สามารถทะลวงผ่านการ์ดของผู้บริโภคให้ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การใช้ ของพรีเมี่ยม เป็นตัวรุก !

ทั้งนี้เนื่องจาก ของพรีเมี่ยม ไม่ใช่สินค้าที่ขาย แต่เป็นสินค้าที่แจกให้ฟรี หรือ แลกซื้อในราคาถูก แต่สรุปว่ามันซื้อไม่ได้ ต้องผ่านเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งเสียก่อน ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้แหละ คือ ตัวเปิดทางให้เราทำการตลาด เช่น การซื้อสินค้าจำนวนกี่ชิ้น จึงจะสามารถได้รับสินค้าพรีเมี่ยม หรือ ซื้อสินค้าจำนวนกี่บาทแล้วจะได้รับแสตมป์สะสมเพื่อแลกซื้อสินค้า พรีเมี่ยม ของเรา มุมนี้คนจะไม่มองมาที่ตัวสินค้า แต่มองเลยไปยังความสนใจอยากได้ ของพรีเมี่ยม แทน

นอกจากนั้น บนตัว ของพรีเมี่ยม เรายังสามารถใส่แบรนด์โลโก้เข้าไปได้อีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้ผู้ได้รับเกิดความใกล้ชิดและจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า เพราะคนเราจะเลือกซื้อของจากสิ่งที่ตัวเองรู้จักและชินตาก่อนเป็นหลัก มันจึงเป็นวิธีที่จะทำให้เราสามารถเอาชนะ และทะลุผ่านการ์ดของผู้บริโภคเข้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการเลือกสินค้าพรีเมี่ยมว่ามีคุณภาพและน่าสนใจแค่ไหนในความรู้สึกของผู้บริโภคด้วย

ของพรีเมี่ยม ไม่จำเป็นต้องแจกอย่างเดียว

ปกติเวลาที่เราสั่งซื้อหรือสั่งผลิต ของพรีเมี่ยม เรามักจะเน้นกันไปในเรื่องนำมาเป็นของแจก ของสมนาคุณ เป็นหลัก ซึ่งเรื่องนี้บางคนก็ยังไม่เข้าใจนักว่า การแจกของออกไปก่อนมันจะสร้างประโยชน์อะไรกลับมาได้บ้าง เพราะยังไม่เห็นตัวเลขขาเข้า เจอแต่ขาออก ซึ่งเรื่องเหล่านี้พบได้บ้าง ในผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งอาจจะยังมองไม่ออกของประโยชน์ในการทำการตลาดแนวนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมีประโยชน์มากและส่งผลดีในระยะยาวในเรื่องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะการยังไม่ลงมือแจกอาจจะดีกว่าแจกโดยที่ไม่เข้าใจหลักในการทำการตลาด หากเป็นการแจกแบบทำตามๆ เขาไป บางทีอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดีก็เป็นไปได้ !

อย่างไรก็ตาม ของพรีเมี่ยม นั้น ไม่ได้สามารถใช้เฉพาะในมุมเอามาทำเป็นของแจกฟรี หรือให้เปล่าอย่างเดียว ยังมีกลยุทธ์อีกมากมายที่สามารถช่วยกระตุ้นยอดขาย และสนับสนุนการหารายได้ของธุรกิจไปพร้อมๆ กันอีกหลายทางอีกด้วย หนึ่งในวิธีการที่ได้ผล ทั้งการส่งแบรนด์เข้าไปอยู่ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ การแลกเพื่อรับสินค้าพรีเมี่ยม ! ซึ่งนี่เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่พิสูจน์มาแล้วว่ามีประสิทธิภาพ

ร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดังหลายแห่งได้ใช้วิธีการสะสมแสตมป์ เพื่อแลกซื้อในราคาถูกและสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ ท่านคงได้เห็นการโฆษณา หรือบางท่านอาจจะมีส่วนในการซื้อสินค้าสะสมแสตมป์เหล่านั้นเองแล้วก็เป็นไปได้ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจมาก เพราะช่วยได้ทั้งยอดขาย และเมื่อแลกซื้อ สิ่งของที่ให้แลกไปก็มีการพิมพ์แบรนด์โลโก้ใส่เอาไว้ เป็นการได้ทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม การที่จะไปถึงจุด สะสมแต้มเพื่อแลก ของพรีเมี่ยม ได้ อย่างแรกที่เราต้องคำนึงถึงก็คือ ตัวสินค้าพรีเมี่ยมเองที่ต้องมีความน่าสนใจมากพอที่จะกระตุ้นความอยากได้ของผู้บริโภค ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องลงแรงในเรื่องการสำรวจความคิดเห็นหรือทำวิจัยกันก่อน เพื่อให้ได้สินค้าที่น่าสนใจที่สุดกับกลุ่มเป้าหมายของเรา และหากเป็นไปได้ควรทำเป็นชุด เพื่อกระตุ้นความสนใจอย่างต่อเนื่อง ประมาณว่าแลกได้ชิ้นหนึ่งแล้วก็อยากได้ชิ้นต่อไปเรื่อยๆ จนครบชุด มันจะยกระดับจากของสมนาคุณ กลายเป็นของสะสม ทีนี้เรียกได้ว่ากระตุ้นยอดขายกันได้ยาวๆ เพราะหากว่าเป็นของที่ถูกใจแล้ว ย่อมอยากได้ให้ครบชุด เพื่อเก็บสะสม กลายเป็นของโชว์ที่มีคุณค่า

ดังนั้น ก่อนที่จะปัดว่ายังมองไม่ออกว่าจะทำรายได้จากการแจก ของพรีเมี่ยม อย่างไร ก็ลองมาพิจารณาในมุมใช้มันเป็นการกระตุ้นยอดขายดู บางทีเราอาจจะทำการตลาดแบบได้ประโยชน์ทั้งเพิ่มยอดขาย และประสบความสำเร็จในการเผยแพร่แบรนด์ไปพร้อมๆ กันก็ได้ !

กระบอกน้ำสำหรับพกพาเวลาปั่นจักรยาน ของพรีเมี่ยม ที่น่าสนใจยุคนี้

การสั่งผลิตหรือสั่งซื้อ ของพรีเมี่ยม เพื่อนำมาแจกในเชิงการตลาด สิ่งที่จำเป็นจะต้องคิดเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ มันเป็นสิ่งที่คนต้องการและได้ใช้งานเป็นประจำหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องมากกับการเติมความทรงจำเกี่ยวกับแบรนด์ของเราให้เกิดขึ้นในใจของผู้ได้รับเสมอ สำหรับ ณ วันนี้ สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ กระบอกน้ำ ! ที่ใช้พกพาไปได้กับรถจักรยาน

เหตุผลก็คือ นี่คือเทรนด์ ที่ฮิตที่สุดตอนนี้ ! เราจะสังเกตเห็นว่ากิจกรรมการปั่นจักรยานถูกจัดขึ้นบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้ รวมถึงความนิยมในการใช้จักรยาน ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเคยเป็นกระแสฮือฮามาครั้งหนึ่งเมื่อสักสิบกว่าปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเป็นเทรนด์รักษ์โรค ลดการปล่อยมลพิษ แต่อย่างไรก็ตามกระแสเรื่อใช้จักรยานก็เบาบางไป จนมาถึงตอนนี้ เทรนด์การรักสุขภาพและดูแลรูปร่าง เป็นตัวปลุกกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมให้เกิดตามขึ้นมาอีกครั้ง แต่ที่เด่นสุดๆ คือ เทรนด์ความเท่ห์ จักรยานถูกยกระดับจากพาหนะ กลายมาเป็นสิ่งแสดงตัวตนในสังคม คนปั่นจักรยานกลายเป็นคนที่มีแนวเป็นของตนเอง เป็นที่น่าสนใจ เป็นลุคใหม่ที่ทำให้คนดูเท่ห์ขึ้นได้ นี่เป็นที่มาของความน่าสนใจที่ฮิตกันอยู่ตอนนี้

ดังนั้น เมื่อมีทั้งกิจกรรมและความนิยมเกี่ยวกับการปั่นจักรยานมากมายขนาดนี้ หากเราต้องการ ส่งแบรนด์เข้าไปในใจคนผ่าน ของพรีเมี่ยม สิ่งที่เกี่ยวกับจักรยาน เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และ กระบอกน้ำดื่ม เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก…

เนื่องจากกระบอกน้ำจะอยู่กับรถจักรยานเสมอ และคนที่ออกกำลังกาย น้ำดื่มขาดไม่ได้เลย ดังนั้น เมื่อเขาพกพากระบอกน้ำที่ติดโลโก้ของแบรนด์เราออกไปไหนต่อไหน ก็เท่ากับนำแบรนด์ของเราไปกระจายให้คนเห็นได้ด้วย และทุกๆ ครั้งที่เขาหยิบกระบอกน้ำขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการกรอกน้ำ ยกดื่ม เขาจะได้เห็นแบรนด์โลโก้ของเราอยู่ตรงนั้น และไม่เพียงแค่ตัวผู้ใช้ คนที่อยู่รอบข้างก็จะได้เห็นไปด้วย อย่าลืมว่าเวลาเราเห็นคนปั่นจักรยาน เราไม่ได้มองแค่ที่คน เรายังมองดูรถของเขาอีกด้วย และบางทีรถอาจเป็นที่สนใจมากกว่าตัวคนด้วยซ้ำ และกระบอกน้ำ พร้อมโลโก้จะอยู่ตรงนั้น ! นี่เป็นจุดที่น่าสนใจ มากในแง่การทำการตลาดเพื่อทำให้เกิดการพบเห็นแบรนด์

กระบอกน้ำดื่ม ที่สามารถพกติดรถจักรยาน จึงเป็น ของพรีเมี่ยม ที่น่าพิจารณาในยุคนี้ นอกจากนั้นยังแฝงความรู้สึกห่วงใยในสุขภาพ ความเป็นผู้ช่วย และความทันสมัยให้เกิดขึ้นกับแบรนด์ของเราได้อีกต่างหาก นี่คือเทรนด์ที่กำลังมาแรง อย่างพลาดโอกาสนี้ !

ของพรีเมี่ยม คือ ของแจก ของสมนาคุณ ที่ส่วนใหญ่จะมีการทำเป็นพิเศษขึ้นมาเพื่อมอบให้ลูกค้าในช่วงโอกาสพิเศษต่างๆ จะเรียกว่าเป็นของที่ระลึกก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วในการทำธุรกิจ ของเหล่านี้คือ อาวุธทางการตลาด ! ซึ่งใช้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ธุรกิจไปจนถึงการกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตามมีบางคนที่ยังไม่แน่ใจว่าของประเภทนี้มีประสิทธิภาพทางการตลาดอย่างไรบ้าง และมีความคุ้มค่าแค่ไหน ในการสั่งซื้อหรือสั่งผลิตเพื่อนำออกแจกจ่าย…

ประสิทธิภาพของ ของพรีเมี่ยม ในฐานะอาวุธทางการตลาด

1. ทำให้เกิดการรับรู้และรู้จักแบรนด์ของเรา หากเราเป็นแบรนด์ใหม่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก การชักจูงให้คนมาสนใจด้วยการแจกของ หรือเล่นเกมส์แจกของเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเราได้ ทำให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง ที่เกิดจากความอยากได้ของแจกเหล่านั้น
2. ทำให้เกิดการจดจำระลึกถึง แน่นอนว่าในการแข่งขันทางธุรกิจทุกวันนี้มีผู้ขายหรือผู้ให้บริการแบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก ผู้ที่ถูกจำได้จึงจะมีโอกาสสูงกว่า การแจกของที่ติดแบรนด์ทำให้เขาเกิดความจดจำและระลึกถึงแบรนด์ของเราได้เป็นอย่างดี ยิ่งเป็นของที่ใช้บ่อยยิ่งมีประโยชน์ในเรื่องนี้
3. ทำให้เกิดการรับรู้ที่แพร่กระจาย เมื่อเราแจก ของพรีเมี่ยม ที่มีคุณภาพและน่าใช้ คนที่เห็นจะไม่ได้มีแต่ผู้ที่ได้รับแจก แต่ยังรวมถึงคนรอบข้าง ทำให้เกิดความรู้จักแบรนด์ของเราตามไปด้วย
4. สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ ยิ่งเราแจกของที่มีคุณภาพดีมากเท่าไหร่ แบรนด์ของเราในใจคนก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะขนาดของแจกยังดีขนาดนี้แล้วสินค้าหรือบริการย่อมอยู่ในระดับสูงกว่าแน่นอน
5. สร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้น อย่าคิดว่าของแจกมีแต่เรื่องจ่ายออกไปก่อนอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมีหลายธุรกิจ สามารถเพิ่มยอดขายได้จากของเหล่านี้ เช่น McDonalds จะมีการออกสินค้าที่ระลึกที่เป็นของเล่นตามภาพยนตร์ดังอยู่เสมอ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันทำให้ลูกเล็กเด็กน้อยดึงมือจูงแขนผู้ปกครองเข้าร้าน เพราะต้องการของเหล่านี้
6. สร้างกิจกรรมที่มีส่วนร่วมกับสังคม ในกิจกรรมใดๆ ที่เป็นงานเกี่ยวกับสังคม เราสามารถสั่งผลิต ของพรีเมี่ยม ออกมาแจกในโอกาสนั้นๆ ได้ ทำให้เกิดความมีส่วนร่วม เช่น งานแข่งขันหรือการปั่นจักรยานในโอกาสต่างๆ ที่นิยมในเวลานี้ เราอาจสั่งผลิตกระบอกน้ำ เพื่อให้นักปั่นได้เอาไว้ใช้ เป็นการสร้างส่วนร่วมในกิจกรรม และเป็นการส่งแบรนด์เข้าไปในใจของพวกเขา

นี่เป็นสิ่งที่ ของพรีเมี่ยม สามารถทำได้ในฐานะอาวุธทางการตลาด อย่าได้มองข้าม ประสิทธิภาพของการแจกของฟรีเป็นอันขาด !

ใกล้สิ้นปีแล้วเลือก ของพรีเมี่ยม สมนาคุณได้หรือยัง

ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ถือเป็นช่วงที่นักการตลาดของบริษัทห้างร้านต่างๆ ต้องทำงานกันหนักมาก หนึ่งเพราะมันเป็นจังหวะที่ดีในการจะใช้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสในการสร้างความรู้สึกประทับใจให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการมอบของที่ระลึกให้เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ เป็นการแสดงออกว่าเราให้ความสำคัญ และเราไม่เคยลืมที่จะใส่ใจพวกเขา นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการที่จะ ส่งแบรนด์เข้าไปแฝงตัวอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อให้เกิดความระลึกและจดจำได้บ่อยๆ ให้เขาเห็นแบรด์ของเราจนชิน และจะเกิดความวางใจ เป็นหนึ่งในกลวิธีรักษาฐานลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นที่คาดหวัง จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถเลือกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มเป้าหมายพึงพอใจได้เสียก่อน และนั่นเป็นเรื่องที่นักการตลาดขององค์กรต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อที่จะได้วางแผนเลือกสั่งผลิต ของพรีเมี่ยม ให้ออกมาตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด และที่สำคัญต้องแข่งกับเวลา เพราะยิ่งใกล้สิ้นปีเท่าไหร่เวลาที่เราจะเหลือในการหาข้อมูลความต้องการก็น้อยเท่านั้น และยังเรื่องการสั่งผลิตสินค้าที่ต้องใช้เวลา ดังนั้นควรทำแต่เนิ่นๆ

อย่างไรก็ตามหากยังเลือก ของพรีเมี่ยม ที่จะสั่งผลิตไม่ได้ ต้องเร่งมือกันหน่อย โดยหาไอเดียได้จากสิ่งเหล่านี้

1. ความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา สินค้าที่แจกไปย่อมจะสื่อความหมายถึงธุรกิจได้ดีหากมีความเกี่ยวข้อง
2. วัยของกลุ่มเป้าหมาย คนแต่ละช่วงวัยมีความสนใจไม่เหมือนกัน มีการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมเรื่องนี้ที่แบ่งออกเป็นกลุ่มด้วย GEN ซึ่งในปัจจุบันนักการตลาดแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องอายุ ประสบการณ์ และความพึ่งพอใจ
3. เพศของกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการของเพศต่างๆ ย่อมมีความแตกต่างกันอยู่บ้างในรายละเอียด แม้จะบอกว่าทุกเพศเท่าเทียมกัน แต่จริงๆ แล้วจะมีความชอบและความพอใจที่เป็นเฉพาะกลุ่มอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐาน หรือเกิดขึ้นจากค่านิยม
4. ประโยชน์ในการใช้งาน สิ่งที่ทำให้เขารับของแจกของเราย่อมเป็นเพราะเป็นของฟรี และพอใจในรูปลักษณ์ แต่มันจะถูกนำใช้งานเสมอหรือไม่ อยู่ที่ประโยชน์ที่เขาจะได้รับ ยิ่งมีประโยชน์มากจำเป็นมากก็หยิบมาใช้บ่อย
5. ราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณและผลที่คาดว่าจะได้รับ

นี่เป็นแนวคิดที่ช่วยให้เรากำหนดลักษณะ ของพรีเมี่ยม ที่เราต้องการได้ แต่หากว่ายังไม่แน่ใจ อาจจะลองเข้าไปติดต่อบริษัทที่ขายหรือรับผลิตสินค้าแนวนี้ที่มีคุณภาพดูก็ได้ เพราะเขามีประสบการณ์ในการเลือกสินค้า และมีตัวอย่างของให้เราชม อาจจะได้ไอเดียขึ้นมาก็ได้ แต่ที่สำคัญต้องสร้างกรอบเวลา หากต้องการใช้ให้ทันสิ้นปี อย่าลืมว่า ยุทธภูมิสิ้นปีนี้แรงมาก ช้าพลาด ไม่โดนเสียโอกาส ต้องเร่งมือ !

รู้จักคนแต่ละ GEN ก่อนเลือก ของพรีเมี่ยม เอาไว้ทำการตลาด

GEN คำนี้มาจากคำว่า Generation อันหมายถึงรุ่น หรือรุ่นอายุ เป็นคำศัพท์ที่ทุกวันนี้ถูกนำมาใช้ในเชิงการตลาดบ่อยๆ ใช้สำหรับแยกกลุ่มคนออกเป็น GEN ต่างๆ เพื่อวิเคราะห์และหาวิธีการสื่อสารทางการตลาดที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของคนกลุ่มนั้นๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีความคิด มุมมอง ประสบการณ์และความพอใจที่แตกต่างกัน หากต้องการสร้างสรรค์สินค้าให้กับคนกลุ่มไหน ย่อมเป็นการดีที่เราจะเข้าใจคนกลุ่มนั้นให้ถ่องแท้ จึงจะสามารถสร้างสินค้าที่พวกเขาต้องการได้ และแน่นอนว่านั่นนำมาซึ่งโอกาสในการประสบความสำเร็จในการขาย แต่… ไม่เพียงสินค้าที่จะขายอย่างเดียวที่ต้องคิดเรื่องนี้ แม้แต่ ของแจก ของสมนาคุณ ที่เป็น ของพรีเมี่ยม เราก็จำเป็นต้องวิเคราะห์เรื่องนี้ด้วย เพราะแม้จะเป็นของแจกฟรี แต่… จริงๆ แล้วมันเป็นเครื่องมือทางการตลาด ใช้สื่อสารกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย หากว่าไม่คิดให้ละเอียด การสื่อสารอาจผิดพลาด และนำมาซึ่งความล้มเหลวเสียเปล่าในการทำการตลาดครั้งนั้นได้เลยทีเดียว

คนแต่ละ GEN กับ ของพรีเมี่ยม

1. คนยุค Baby Boom เป็นกลุ่มอายุที่มีวัยตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป พูดง่ายๆ คือเป็นกลุ่มคนที่เกิดในยุคพื้นฟูของโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คนกลุ่มนี้จะเติบโตมาด้วยการได้รับการสอนให้อดทน ต่อสู้ มีวินัย และเชื่อในผู้นำ หรือชาติเป็นหลัก ของพรีเมี่ยม ที่เหมาะควรเป็นของที่แข็งแรงทนทานเน้นประสิทธิภาพ ไม่มีลวดลายหรือลูกเล่นหวือหวา
2. คน GEN X กลุ่มคนที่เป็นลูกของคนยุค Baby Boom จะมีความพยายามทำตัวฉีกแนวแตกต่างจากยุคพ่อแม่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและรู้จักเทคโนโลยี ของพรีเมี่ยม ควรมีความเป็นเฉพาะ ยิ่งเน้นว่าเป็นของเขาได้เลยยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เช่น ที่ใส่นามบัตร ที่บรรจงสลักชื่อของเขาลงไปบนกล่อง เป็นต้น
3. คน GEN Y กลุ่มคนที่เกิดมาพบกับการเริ่มต้นของยุคเทคโนโลยีการสื่อสาร เป็นกลุ่มที่ทันสมัยชอบเทคโนโลยีมาก และชอบที่จะทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ของพรีเมี่ยม แบบสารพัดประโยชน์ หรือใช้รองรับเครื่องใช้เทคโนโลยีสูงจะเหมาะกับคนกลุ่มนี้มาก เช่น หากแจก Power Bank จะโดนใจมากเป็นพิเศษ เพราะนิยมใช้อุปกรณ์การสื่อสารเคลื่อนที่ แต่ต้องเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดี หากผิดพลาดคน GEN นี้พร้อมต่อว่า และแชร์ให้เพื่อนรู้อย่างไม่มียั้ง !
4. คน GEN Z กลุ่มนี้คือ เด็กในปัจจุบัน เรียนรู้เทคโนโลยีได้เร็ว เพราะเกิดมากับสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่ชอบจะเป็นเรื่องของวัยรุ่นตามกระแส ของพรี่เมี่ยม ทีอิงดาราหรือนักร้องภาพยนตร์ แม้แต่การ์ตูน เหมาะที่สุด เน้นสีสันที่หวือหวา แต่ว่าต้องใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

นี่เป็นลักษณะคร่าวๆ ของ GEN ต่างๆ ที่นักการตลาดควรทำความเข้าใจ ก่อนที่จะเลือก ของพรีเมี่ยม เพื่อทำการตลาดกับคนแต่ละกลุ่ม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด